
ผลการสำรวจของนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลและเครือข่ายอาสาสมัคร พบปะการังเริ่มฟอกขาวครั้งแรกเมื่อต้นเดือนมีนาคม บริเวณเกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงกลางเดือนเมษายนพบปะการังฟอกขาวเพิ่มเติมบริเวณอ่าวไทยที่หมู่เกาะอ่างทองและเริ่มพบที่ฝั่งอันดามันบริเวณเกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ตประมาณปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมพบปะการังเริ่มฟอกขาวบริเวณอันดามันตอนใต้ บริเวณตอนเหนือของเกาะตะรุเตาและหมู่เกาะบุโหลน จังหวัดสตูล และกลางเดือนพฤษภาคม มีรายงานการฟอกขาวบริเวณหมู่เกาะมันในและเกาะแสมสารบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันออก
อาจกล่าวได้ว่าปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวของประเทศไทยในปี 2559 ได้เกิดในวงกว้างทั่วน่านน้ำไทย นอกจากนั้นบางพื้นที่ปะการังเริ่มฟอกขาวอย่างรุนแรงมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยพบจุดแรกที่บริเวณเกาะมะพร้าว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
ทั้งนี้ กรมทะเลแจงสถานการณ์ปะการังฟอกขาวปี 2559 พบแล้ว 74 จุด ใน 12 จังหวัด พร้อมคุมเข้มมาตรการ มาตรา 17 และ 22 ของ พ.ร.บ.ทช. สถานการณ์ปะการังฟอกขาว ปี 2559 สำรวจพบ จำนวน 81 จุด (12 จังหวัด 58 เกาะ 3 แหลม 2 อ่าว 1 หาด) ในระดับวิกฤต (สีแดง) 33 จุด ในระดับรุนแรง (สีเหลือง) 48 จุด โดยแยกเป็นภาคตะวันออก 7 จุด อ่าวไทยตอนกลาง 36 จุด อ่าวไทยตอนล่าง 3 จุดและทะเลอันดามัน 35 จุดนอกจากนั้น ยังพบว่าการเกิดปะการังฟอกขาวเป็นพื้นที่ นอกเขตอุทยาน จำนวน 36 จุด และพื้นที่ในเขตอุทยาน จำนวน 45 จุด สำหรับปะการังฟอกขาวในระดับวิกฤต (สีแดง) 33 จุด ได้แก่
จ.ชุมพร มีเกาะง่ามน้อย, เกาะง่ามใหญ่, เกาะไข่, เกาะรางบรรทัด, เกาะมะพร้าว, เกาะกุลา, แหลมคอกวาง, หินละแม,หินแต้ม
จ.สุราษฎร์ธานี มีเกาะแตน, เกาะมัดหลัง, เกาะเต่า - อ่าวม่วง - อ่าวแหลมเทียน, เกาะนางญวน - อ่าวสอง
จ.นครศรีธรรมราช มีอ่าวท้องหยี
จ.ภูเก็ต มีเกาะราชาใหญ่ - อ่าวทือ - อ่าวขอนแค,แหลมพันวา,เกาะไม้ท่อน - ทิศตะวันออก, เกาะราชาน้อย-ทิศตะวันออก, เกาะเฮ-ทิศเหนือ, เกาะแอว-ทิศเหนือ, อ่าวตังเข็น, เกาะโหลน - ทิศเหนือ
จ.กระบี่ มีเกาะพีพีเล - อ่าวมาหยา, เกาะบิด๊ะนอก - อ่าวปิเล๊ะ, เกาะบิด๊ะใน
จ.ตรัง มีเกาะมุกต์ - ทิศเหนือ - หน้าถ้ำมรกต, เกาะเชือก,เกาะกระดาน, เกาะแหวน
และ จ.สตูล มี เกาะอาดัง
ส่วนสถานการณ์ปะการังฟอกขาวบริเวณเกาะมันในและหมู่เกาะเสม็ดจังหวัดระยองในปี 2559 พบว่าอยู่ในระดับรุนแรง (สีเหลือง) เกิดการฟอกขาว 30 - 40% ของปะการังมีชีวิต (ถือว่าอยู่ในระดับเริ่มรุนแรง - น้อยกว่า 50% ) สำหรับปะการังที่ฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขดปะการังกาแล็กซี่,ปะการังลายดอกไม้,ปะการังรังผึ้งปะการังรังผึ้งเล็ก,ปะการังหนามขนุน,ปะการังสมองร่องยาว,ปะการังสมองร่องใหญ่,ปะการังวงแหวน,ปะการังผิวยู่ยี่,และปะการังเขากวาง นอกจากนี้พบหอยมือเสือฟอกขาวเช่นกัน
ข้อมูลอุณหภูมิน้ำทะเลพบว่าค่าเฉลี่ยอุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 ตามลำดับ (เดือนก.พ.59 เท่ากับ 28.5 เดือนมี.ค.59 เท่ากับ 30.2 เดือนเม.ย.59 เท่ากับ 31.9 เดือนพ.ค.59 เท่ากับ 32.4 (จนถึงวันที่ 25 พ.ค.59) และสูงสุดที่ 33.85 องศาเซลเซียสเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 ปัจจุบันอุณหภูมิน้ำทะเลเฉลี่ยลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียสแล้ว
นายโสภณ กล่าวเพิ่มว่า ถ้าอุณหภูมิของน้ำลดลงอยู่ในระดับปกติก็คาดว่าสถานการณ์ปะการังฟอกขาวจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ทว่าก็ยังคงติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาวกันตลอด ทั้งใช้มาตรการเร่งด่วน โดยใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 มาตรา 17 ในการลดผลกระทบและภัยคุกคามจากมนุษย์ที่มีต่อแนวปะการังในช่วงวิกฤตนี้ เพื่อให้ปะการังที่ฟอกขาวมีโอกาสรอดจากการตายให้ได้สูงที่สุด
โดยการห้ามกิจกรรมที่ทำอันตรายต่อปะการัง ได้แก่ ห้ามการทอดสมอเรือ ในแนวปะการัง ห้ามการทิ้งขยะและปล่อยมลพิษลงบนแนวปะการัง ห้ามการขุดลอกร่องน้ำในแนวปะกรัง ห้ามกิจกรรมใดๆ ที่ก่อให้เกิดตะกอนลงสู่แนวปะการังห้ามการจับสัตว์น้ำในแนวปะการังห้ามการให้อาหารปลา ในแนวปะการังห้ามการเดินเหยียบย่ำแนวปะการังและห้ามการเก็บหรือทำลายปะการัง เว้นแต่การกระทำเพื่อการศึกษาวิจัยทางวิชาการ และควบคุมการใช้ประโยชน์แนวปะการังโดยการควบคุมการท่องเที่ยวดำน้ำในแนวปะการังไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง
สำหรับมาตรการต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของแนวปะการังและสร้างสมดุลของการใช้ประโยชน์ ผ่านการใช้มาตรา 22 ของ พ.ร.บ.ทช.ในการออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของแนวปะการัง กำหนดมาตรฐานการใช้ประโยชน์แนวปะการัง ควบคุมเฝ้าระวัง ฟื้นฟูแนวปะการังและสนับสนุนงานวิจัยเพื่อการบริหารจัดการแนวปะการังและขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาชนในการอนุรักษ์ปะการังของไทยให้ยั่งยืนตลอดไป