หลังเกิดเหตุสุดสลดนี้สวนสัตว์ซินซินนาติก็ถูกผู้คนส่วนหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างหนักว่าทำเกินกว่าเหตุบางคนถึงกับแบนสวนสัตว์ซินซินนาติ ลั่นขอไม่สนับสนุนและไม่พาเด็ก ๆ ไปเข้าชมอีก แม้ว่าเธนเมย์นาร์ด ผู้จัดการสวนสัตว์ จะชี้แจงแล้วว่าเหตุผลที่ไม่ใช้ยาสลบยิงเจ้าฮารัมบี เพราะยาสลบนั้นต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการออกฤทธิ์ทำให้ฮารัมบีมีเวลาทำร้ายเด็กได้ต่อ จึงต้องจำใจยิงมันตายเพื่อยุติการทำร้ายลงทันที
ส่วนผู้คนอีกส่วนหนึ่งก็พุ่งเป้าไปทางครอบครัวของเด็กว่าละเลยลูกจนทำให้ลูกพลัดตกลงในไปกรงกอริลลาพร้อมกันนี้ยังได้มีการตั้งแคมเปญ Justice for Harambe (ขอความเป็นธรรมให้ฮารัมบี) บนเว็บไซต์Change.org โดยมีจุดประสงค์เพื่อเอาผิดพ่อแม่ของเด็กชายข้อหาละเลยและไม่ใส่ใจดูแลลูกเท่าที่ควร
ขณะที่ประชาชนบางรายก็ได้เดินทางไปยังสวนสัตว์ซินซินนาติพร้อมชูป้ายประท้วงทั้งขอความเป็นธรรมให้กอริลลา และบอยคอตสวนสัตว์ด้วย
สำหรับอาการของเด็กชายหลังนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุเขาได้รับอนุญาตให้กลับบ้านในวันนั้นเลย เพราะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย
กระแสที่ออกมาโจมตีการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมาย ว่าทำไมทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ไม่ยิงลูกดอกยาสลบหรือใช้วิธีอื่นจัดการล่าสุดผู้เชี่ยวชาญอย่าง Dr. Sharon Redrobe หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของTwycross Zoo ได้ออกมาอธิบายถึงเรื่องนี้ ว่า เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็ต้องจัดการกับอุบัติเหตุนี้โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตาย และคงไม่มีใครรู้จักพฤติกรรมของสัตว์ตัวนั้นๆเท่ากับเหล่าเจ้าหน้าที่อีก ในความเป็นจริงก็คือ ก่อนจะยิงสังหารเจ้ากอริลล่านั้นทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ดูสถานการณ์กว่า10 นาที นั่นหมายความว่าพวกเขาได้พยายามแทบทุกอย่างแล้วที่จะไล่เจ้ากอริลล่าตัวนี้ไปให้ไกลจากเจ้าหนู
กอริลล่าเป็นสัตว์ใหญ่และลูกดอกยาสลบต้องใช้เวลาถึง 5-10 นาทีถึงจะออกฤทธิ์เต็มที่และการฟาดแขนของมันก็สามารถสังหารเจ้าหนูได้ภายในครั้งเดียว
กอริลล่าตัวโตเต็มวัยและมีน้ำหนักราวๆ 181 กิโลกรัม นั่นอาจหมายความว่าต้องใช้เวลากว่า10 นาทีเต็มเลยทีเดียว และ 10 นาทีหลังจากยิงลูกดอกก็ไม่มีใครจะสามารถรับประกันได้ว่ามันจะมีพฤติกรรมรุนแรงหรือก้าวร้าวออกมารึเปล่า