
วารสาร Environmental Research Letters ตีพิมพ์ผลงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียที่ได้สำรวจภาพถ่ายดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศจากปี 2490-2557 เพื่อศึกษาผลกระทบของระดับน้ำทะเลสูงขึ้นต่อชายฝั่งของเกาะปะการัง 33 เกาะในประเทศหมู่เกาะโซโลมอน
รายงานระบุว่า เกาะปะการัง 5 แห่งของโซโลมอน ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 6.25 ไร่ถึง 31.25 ไร่จมหายไปในปี 2557 เกาะเหล่านี้มีอายุราว 300 ปี และเกาะอีก 6 แห่งมีการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง ทำให้ขนาดของเกาะลดลง 20-62%
ระดับน้ำทะเลในหมู่เกาะโซโลมอนเพิ่มสูงขึ้นปีละ 7 มิลลิเมตรในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากโลกร้อนขึ้นและกระแสลมรุนแรงขึ้น และไซมอน อัลเบิร์ต จากมหาวิทยาลัยควีนสแลนด์ ระบุว่า ระดับน้ำทะเลทั่วโลกมีอัตราสูงขึ้นปีละ 3 มิลลิเมตร แต่คาดว่าจะสูงขึ้นในอัตราเดียวกับโซโลมอนภายในสิ้นศตวรรษนี้
ก่อนหน้านี้ผลการวิจัยระบุว่า เกาะในแปซิฟิกจะมีปัญหาชายฝั่งกัดเซาะเนื่องจากภัยธรรมชาติรุนแรง กำแพงกันคลื่น และการพัฒนาชายฝั่งอย่างไม่เหมาะสม มากกว่าจะเป็นปัญหาจากน้ำทะเลสูงขึ้น แต่ในรายงานล่าสุด พบว่าเกาะทั้ง 5 แห่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำทะเลสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ