
อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ บอกว่า กรณีมีสื่อนำเสนอข้อมูลเรื่องพระราชกฤษฎีกา ที่ต้องเปลี่ยนจากส้วมซึมนั่งยองเป็นโถส้วมนั่งราบหรือส้วมชักโครก ทำให้ต้องยกเลิกการใช้ส้วมนั่งยองนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวคือ พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2556 โดยมาตรา 3 ระบุ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก.792 - 2554 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4380 (พ.ศ. 2554)
โดยมีหมายเหตุว่า เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอนามัยของประชาชนได้ หากมีคุณภาพต่ำ จึงจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและเพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดแก่ประชาชน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 พ.ศ. 2556-2559 คือ พัฒนาส้วมครัวเรือนให้เหมาะสมในการรองรับต่อการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คือ ป้องกันโรคข้อเสื่อม ส้วมสาธารณะได้มาตรฐาน สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย โดยตั้งเป้าภายในปี 2559 ให้ครัวเรือนไทยใช้ส้วมแบบส้วมนั่งราบร้อยละ 90 ส่วนสถานบริการสาธารณะและสถานที่สาธารณะมีบริการส้วมนั่งราบอย่างน้อย 1 ที่