
ความคืบหน้ากรณีพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะนาคาน้อย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ระหว่างนักแสดงหนุ่ม "ภูริ หิรัญพฤกษ์" กับบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินคู่กรณี หลังจากที่คณะของรองผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต นายโชคดี อมรวัฒน์ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณที่ดินที่เป็นปัญหาไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดไม่พบว่ามีการกระทำผิดตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ โดยนายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา เจ้าของบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด พร้อมด้วยนายสินบารมี ลักษมีแสงจันทร์ หุ้นส่วนฯ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวมาจากคนในตระกูลท่อทิพย์ ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ในพื้นที่ เมื่อปี 2557 ในราคาประมาณ 40 ล้านบาท โดยไม่ทราบที่มาที่ไปของที่ดิน และซื้อด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งก่อนตัดสินใจก็ได้มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์กับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนจะถูกต้องหรือไม่ตนไม่ทราบ และมีหลักฐานทางที่ดินครบ ตั้งแต่ใบเยียบย่ำ สค.1 จนกระทั่งมาถึง น.ส.3 ก. ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ข้อความในโลกโซเชียลของดาราดังที่ระบุ ว่า มีการขนคนและอาวุธครบมือ รวมทั้งนำรถแบคโฮขึ้นไปเกาะนาคาน้อย ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะก่อนที่จะเข้าไปในพื้นที่ ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ถลาง เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะส่งคนงานเข้าไปปรับพื้นที่ในที่ดินของตัวเอง
นายชาญวิทย์ บอกอีกว่า วันแรกที่ลงไปเกาะมีคนงานไปด้วนประมาณ 5-6 คน เพื่อปรับพื้นที่ทางเดินให้มีความสะดวก และมีการทำบันไดขึ้นไปยังที่ดินด้านบนที่มีความลาดชัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบ และยืนยันว่าไม่มีการขนอาวุธ และรถแบคโฮเข้าไปในพื้นที่แต่อย่างใด รวมทั้งไม่มีการตัดต้นไม้ใหญ่แม้แต่ต้นเดียว ซึ่งไม่ตรงกับข้อความที่มีการโพสต์ไป
ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงาน เตรียมจะใช้ ม.44 เข้าไปตรวจสอบ และสั่งให้ระงับการดำเนินการใดๆในที่ดินนั้น คิดว่าไม่ต้องใช้ เพราะหลังจากนี้ตนก็จะหยุดการเข้าไปดำเนินการปรับพื้นที่ และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ได้ยื่นเรื่องไว้ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ภูเก็ต และดีเอสไอ ให้ตรวจสอบกรณีการออกเอกสารสิทธิที่ดินในส่วนของครอบครัว "หิรัญพฤกษ์" ด้วย
ล่าสุดเช้านี้ (8 เม.ย.) นายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา เจ้าของบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิด นายภูริ และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีที่มีการโพสต์ ข้อความบนโลกโซเชียลจนเป็นข่าวสร้างความเสียหาย