
เนื่องจากเสียเลือดเป็นจำนวนมาก และชีพจรเริ่มอ่อนแรง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุแห่งการตาย จึงส่งศพผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
เบื้องต้นสอบถาม ด.ช.นวดล ดีใจ อายุ 11 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขออนุญาตผู้ปกครองเพื่อมาเล่นฟุตซอลที่ลานกีฬาอเนกประสงค์หน้าที่ว่าการอำเภอวังทอง โดยมีตนเองและเด็กชายทองธานีพร้อมกับเพื่อนชายรุ่นราวคราวเดียวกันอีก 1 คน รวม 3 คน พากันมาเล่นฟุตซอลเพื่อออกกำลังกายกันตามปกติ แต่ระหว่างที่กำลังเตะฟุตซอลอยู่นั้นลูกฟุตซอลเกิดลอยโด่งขึ้นไปค้างอยู่บนแป้นบาสไม่สามารถนำลงมาได้ ซึ่งเด็กชายทองธานี เป็นผู้อาสาจะปีนขึ้นไปเก็บลูกฟุตซอลให้ ซึ่งตนเองและเพื่อนได้พูดทักท้วงว่าจะเป็นอันตรายได้ เพราะแป้นบาสอยู่สูงจากพื้นด้านล่างมาก อีกทั้งยังไม่มั่นคงแข็งแรง แต่เด็กชายทองธานีก็ดึงดันขอปีนขึ้นไปเก็บลูกฟุตซอลเอง
ทันใดนั้นแป้นบาสเกิดขยับเนื่องจากเป็นล้อเลื่อนทำให้เสียสมดุลจนรับน้ำหนักไม่ไหว หินที่ทับถ่วงน้ำหนักไว้ด้านท้ายเสาแป้นบาสจึงกลิ้งหลุดออก จนเป็นเหตุให้แป้นบาสล้มมาทับร่างของเด็กชายทองธานีดังกล่าว ขณะนั้นตนตกใจมากและช่วยกันพยายามยกแป้นบาสที่ทับอยู่ออก แต่ก็ไม่มีแรงพอจึงตะโกนร้องให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยเหลือ และมีพลเมืองดีไปแจ้งกับตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วยอีกแรง แต่เด็กชายทองธานีก็ไม่ตอบสนองแล้วและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในที่สุด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดวังทองวราราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ด.ช.ทองธานี ราชธานี หรือน้องอ๊อฟ ผู้เสียชีวิตที่ถูกแป้นบาสล้มทับ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของผู้ปกครองและครอบครัว โดยมีญาติที่ทราบข่าวต่างมารอรับศพที่กำลังเคลื่อนร่างออกจากแผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราชเพื่อเตรียมรดน้ำศพ ขณะที่นายพีระศักดิ์ ดีใจ อายุ 32 ปี ลุงของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับที่เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองควรมั่นดูแลบุตรหลานในช่วงปิดภาคเรียน เพราะเด็กวัยนี้กำลังเป็นวัยซุกซน และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลอุปกรณ์กีฬาที่มีสภาพชำรุด หรือไม่พร้อมใช้งาน เนื่องจากแป้นบาสที่อยู่ในที่เกิดเหตุมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้ว อีกทั้งเคยล้มมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งนี้ล้มทับเด็กจนเสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากแผ่นปูนซีเมนต์ที่ใช้วางทับแป้นบาสด้านท้ายมีน้ำหนักไม่เพียงพอ จนสามารถขยับเขยื้อนได้ หน่วยงานที่ดูแลควรหามาตรการด้านความปลอดภัยให้มากกว่านี้ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นลานกีฬาอเนกประสงค์มีเยาวชนมาออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ อาจจะเกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้ขึ้นได้อีก ควรจะทำการเคลื่อนย้ายออกไปไว้ที่อื่น หรือซ่อมแซมให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงกว่านี้ ส่วนเรื่องค่าเสียหายไม่ได้เรียกร้องจากหน่วยงานใด หรือติดใจเอาความทั้งสิ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ.