
สถานที่ดังกล่าวเป็นโรงแรมความสูง 8 ชั้น ด้านล่างเป็นล็อบบี้ประชาสัมพันธ์ บริเวณชั้น 2 พบเปิดเป็นสถานบันเทิงจำนวน 2 ร้านติดกัน ร้านแรกชื่อร้านเวก อัพ (wake up) ภายในมีนักเที่ยวจำนวนมากกำลังดื่มกินสุรา เปิดเพลงเต้นสนุกสนาน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างก็พากันแตกตื่น ก่อนที่เจ้าหน้าที่สั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟ โดยมี นายสงกรานต์ แก้วมณี อายุ 42 ปี รับเป็นผู้ดูแลร้าน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าตรวจสอบภายในร้านกระแดะ ซึ่งภายในร้านพบนักเที่ยวอีกจำนวนหนึ่ง มี นายชัยภูมิภัทร นิจรัน อายุ 37 ปี รับเป็นผู้ดูแล ส่วนอีกชุดไปตรวจที่ร้านนาซ่าที่อยู่ระแวกโรงแรม ก่อนทำการตรวจบัตรประชาชน และตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทั้งหมดจากสถานบันเทิง 3 แห่ง จำนวน 398 คน รวมทั้งสิ่งผิดกฎหมายชนิดอื่นๆ ผลปรากฏว่า พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประชาชน 31 คน และพบนักเที่ยวปัสสาวะเป็นสีม่วง 110 คน แบ่งเป็นชาย 67 คน หญิง 43 คน นอกจากนี้ยังพบซองพลาสติกใส่ยาเสพติดชนิดยาอีหล่นเกลื่อนไปทั้วพื้น อย่างไรก็ตาม่การตรวจจับครั้งนี้ไม่พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการ และไม่พบอาวุธปืนหรือสิ่งผิดกฎหมายชนิดอื่นแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่สนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ปกครอง และตำรวจกองปราบปราม เข้าจับกุมนักท่องเที่ยวมั่วสุมในสถานบันเทิง ที่เปิดให้บริการภายในโรงแรมย่านห้วยขวาง โดยการเข้าจับกุมครั้งนี้ เป็นการประสานการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ ตามโครงการ ตรวจเข้ม ไม่หลับ ไม่นอน บก.น.2 ซึ่งการเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าวไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลยของตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการระดมกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีสถานบริการแอบลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามความสมัครใจหากผู้ใดประสงค์รับการบำบัดก็จะส่งตัวไปยังสถานบำบัดยาเสพติดตามคำสั่ง คสช. แต่ถ้าปฎิเสธก็จะนำตัวส่งตรวจสอบสารเสพติดอย่างละเอียด เพื่อส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เรียกประชุมผู้กำกับทุกสน. ในพื้นที่ บก.น.2 ประกอบด้วยสน.สุทธิสาร สน.บางเขน สน.ทุ่งสองห้อง สน.ดอนเมือง สน.เตาปูน สน.ประชาชื่น สน.โคกคราม สน.สายไหม สน.คันนายาว สน.บางซื่อ และผกก.สส.น.2 หลังจากเมื่อวันที่ 1 เมษายน เจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมบ่อนพนัน ย่านดอนเมือง ได้ผู้ต้องหา กว่า 61 คน ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้เข้าจับกุมปาร์ตี้ยา บริเวณชั้น 2 ไทยอาร์ซี โฮเต็ล ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร โดยจับกุมนักเที่ยวได้ 398 คน และตรวจพบสารเสพติดเบื้องต้น 110 คน
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวว่าตนได้เร่งรัดกรณีระดมหมายจับค้างเก่า เพื่อความเรียบร้อยก่อนเข้าช่วงเทศการสงกรานต์ โดยจะให้ทั้งฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบร่วมกันทำงาน ส่วนในพื้นที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของการดูสถานบริการ สถานการพนัน และแหล่งมั่วสุมต่างๆ ทั้งนี้ในส่วนของบก.น.2ได้มีการแบ่งงานเพื่อเตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยจะแบ่งจุดการทำงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความรวดเร็วในการดูแลความเรียบร้อย หากมีเหตุความรุนแรงให้รายงานมาที่สน.ท้องที่ทันที ซึ่งตำรวจที่ประจำจุดต่างๆหากพบว่ามีการปล่อยปะละเลย ก็จะมีบทลงโทษต่อไป
กรณีของ สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าตำรวจกองปราบปรามเข้าจับกุมปาร์ตี้ยาในพื้นที่ ได้ผู้ต้องหากว่า110 คน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีบันทึกรายงานจากทางสน.สุทธิสารมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ว่า ร้านดังกล่าวนี้มีการเปิดเกินเวลา และมีเสียงดัง ก่อนที่ทาง สน.จะเข้าไปทำความเข้าใจและพูดคุย แต่สถานบริการดังกล่าวยังเปิดเกินเวลาและเสียงดัง ต่อมาวันที่ 31 มี.ค.ทางสน.สุทธิสาร ก็ได้ทำบันทึกรายงานมาที่ บก.น.2 เพื่อขอกำลังในการเข้าตรวจค้นและร่วมตรวจค้นในช่วงเช้าที่ผ่านมานี้ ถือว่ามีการประสานงานกันที่เป็นรูปธรรม และมีการรายงานผลให้ทาง รรท.ผบช.น. ทราบแล้ว ดังนั้นทาง สน.สุทธิสาร จึงไม่ถือว่ามีความบกพร่องใดๆ ผบก.น.2 ระบุ
ขณะที่ พ.ต.ท.บุญลือ กล่าวว่า จากการตรวจค้นสถานบันเทิงในครั้งนี้พบยาเสพติดประเภทยาไอซ์ ยาเค ยาอี และ ยานอนหลับหรือที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมเรียกกันว่า ยาไฟท์ไฟท์ ตกหล่นอยู่บริเวณพื้นของสถานบันเทิงจำนวนมาก และจากการสืบสวนพบยังว่าสถานบันเทิงดังกล่าวมีการเปิดเกินเวลามาโดยตลอด โดยมีการก่อความเดือดร้อนรำคาญต่อประชาชนละแวกนั้น จึงทำให้มีการร้องเรียนมายังกองบังคับการปราบปราม จากนั้นทาง กก.1บก.ป.ได้ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าไปสังเกตการณ์ในสถานบันเทิงดังกล่าว ทำให้ทราบว่า มีการเปิดเกินเวลาจริง ซึ่งมีการเปิดบริการตั้งแต่ช่วงค่ำคืนจนถึงช่วง เวลา11.00 น.-12.00 น.ของทุกวัน และมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งนี้สถานบันเทิงที่ทำการตรวจค้นพบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ