svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงยืนยัน นิสิตทั้ง 7 คน ที่บาดเจ็บจากการต้นหางนกยูงโค่นทับ พ้นขีดอันตรายแล้ว และจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก


จุฬาฯแถลงข่าวหางนกยูงโค่นทับนิสิตยืนยันนิสิตทุกคนพ้นขีดอันตราย ระบุตรวจสอบแล้วเหตุสุดนิสัย ปลวกกินจากข้างใน มองจากภายนอกไม่รู้ว่าต้นไม้มีปัญหา

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ธนิต ธงทอง รองอธิการบดีด้านกิจการนิสิต จุฬาฯ พร้อมด้วย รศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม รองอธิการบดีด้านกายภาพ จุฬาฯ และ รศ.นพ.รื่นเริง ลีลานุกรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริการ เปิดแถลงข่าวกรณีต้นหางนกยูงโค่นลงมาทับนิสิตชั้นปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน
ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย


โดย รศ.ดร.ธนิต กล่าวว่า ในนามของจุฬาฯ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้ไปเยี่ยมนิสิตที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงเช้าที่โรงพยาบาล หลายคนมีอาการดีขึ้นและกลับบ้านได้แล้ว ทั้งนี้เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้น สามารถส่งตัวนิสิตถึงโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก จุฬาฯ มีระบบดูแลและรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุไว้อย่างดี และมีการซักซ้อมอยู่ตลอดเวลา

รวมถึงมีศูนย์สุขภาพของจุฬาฯ เข้ามาดูแลเมื่อเกิดเหตุจึงสามารถนำตัวนิสิตส่งโรงพยาบาลได้ภายใน 15 นาที ขณะที่นิสิตก็มีบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีประกันอุบัติเหตุ ทำให้การดูแลรักษาทำได้อย่างเต็มที่ นิสิตที่ได้รับบาดเจ็บจึงมีอาการดีขึ้น นอกจากนั้น ได้หารือกับคณบดีของทั้ง 2 คณะเพื่อวางแผนการสอนเสริมให้นิสิตเป็นรายคน เพราะแต่ละคนใช้เวลาในการพักฟื้นรักษาตัวไม่เท่ากัน

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน
ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย



ด้าน รศ.นพ.รื่นเริง กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้รับนิสิตที่บาดเจ็บไว้เมื่อเวลา 13.16 น.ของวันที่ 9 มี.ค. ซี่งในจำนวน 7 รายนั้น ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทางโรงพยาบาลทำแผลและกลับบ้านได้จำนวน 3 ราย ส่วนอีก 4 รายต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ ซึ่งล่าสุดเช้านี้สามารถกลับบ้านได้ 2 ราย เหลืออีก 2 รายต้องพักรักษาตัว และรอดูอาการต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมทีมแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา โดยทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ทางด้านอุบัติเหตุ ศัลยกรรมประสาท ศัลยกรรมกระดูก ทั้งนี้ยืนยันว่านิสิตที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนรู้สึกตัวดี และพูดจาตอบโต้ได้

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน
ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย


อีก 2 รายที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น รายแรกมีอาการกระดูกสันหลังยุบเล็กน้อย 1 ระดับ รอตัดเสื้อพยุงกระดูกสันหลัง หากเสร็จเรียบร้อยแล้วก็น่าจะสามารถเดินได้และกลับบ้านได้ ส่วนอีกรายมีกะโหลกศีรษะช่วงท้ายทอยแตก กระดูกต้นแขนซ้ายหัก มีลมรั่วที่ปอดด้านขวาใส่สายระบายลมอยู่ และมีกระดูกสันหลังยุบเล็กน้อยหลายระดับ ซึ่งก็กำลังตัดเสื้อพยุงกระดูกสันหลังอยู่เช่นกัน เพื่อให้สามารถขยับตัวได้ แต่ยืนยันว่าทั้งสองคนอาการปลอดภัย และพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะกระดูกสันหลังที่ยุบไม่ได้กระทบถึงไขสันหลัง เพียงแต่ต้องระมัดระวังและต้องรอปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก และเวชศาสตร์ฟื้นฟูว่าจะเริ่มให้นิสิตขยับตัวได้มากน้อยแค่ไหน และเมื่อใด อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าจะมีการนัดหารือกับทางคณะที่นิสิตศึกษาอยู่ เพื่อมาร่วมกันวางแผนว่าในระหว่างที่รักษาตัวนิสิต จะปรับแผนการรักษาหรือปรับตารางเรียนของนิสิตอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนของเจ้าตัว รศ.นพ.รื่นเริง กล่าว

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน
ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย


ขณะที่ รศ.ดร.บุญไชย กล่าวว่า ยืนยันว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุวิสัยจริงๆ จากการตรวจสอบพบว่าต้นหางนกยูงที่โค่นลงมา เพราะปลวกกินข้างใน จนแกนกลางข้างในโพรง ซึ่งถ้าดูจากสภาพภายนอกจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นต้นไม้ที่มีปัญหา ต้นไม้ยังเติบโตตามปกติ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจุฬาฯ โดยสำนักบริหารระบบกายภาพ มีกลุ่มงานภูมิทัศน์ที่คอยดูแลต้นไม้ในมหาวิทยาลัยอยู่ และมีรถกระเช้าไว้สำหรับออกตัดแต่งต้นไม้ทุกวัน เพราะต้นไม้ในจุฬาฯ ส่วนใหญ่มีอายุมาก และมีขนาดใหญ่ เช่น ต้นจามจุรี ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย มีอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งจุฬาฯ คาดว่าอายุจะเกิน 100 ปี ส่วนหางนกยูงทยอยปลูกภายหลัง แต่ส่วนใหญ่ก็มีอายุมาก โดยเฉพาะต้นไม้บริเวณรอบสนามหน้าพระบรมอนุสาวรีย์อายุต่ำสุดคือ 50 ปี ขณะที่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ก็มีต้นไม้อายุร่วม 100 ปีอยู่หลายต้น

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน
ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย

จุฬาฯ มีระบบดูแลต้นไม้ใหญ่อย่างดี ถ้าพบว่าต้นไม้ไหนมีความเสี่ยง มีปัญหา เนื้อไม้หายไป หรือถูกปลวกกิน ก็จะมีการดูแลฉีดยาและศัลยกรรมต้นไม้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาควิชาภูมิสถาปัตย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และภาควิชาพฤกศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ให้องค์ความรู้ในการดูแลต้นไม้ด้วย โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู ซึ่งมักจะเกิดพายุขึ้น จะเข้มงวดในการตรวจสอบดูแลต้นไม้เป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามแม้เหตุการณ์ที่เกิดจะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่เราก็จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก เพราะฉะนั้นนอกจากการตรวจสอบต้นไม้อย่างเข้มข้นแล้ว ก็จะหาเทคนิคใหม่ๆ มาดูแลต้นไม้เพิ่มเติมด้วย เช่น ใช้เทคนิคการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย ซึ่งใช้ในงานวิศวกรรมศาสตร์ ปรับมาใช้กับงานภูมิทัศน์ เพื่อให้การดูแลต้นไม้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ให้จุฬาฯ มีร่มเงาต้นไม้ ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงน้อยที่สุดรศ.ดร.บุญไชย กล่าว

จุฬาฯ แถลง นิสิตปลอดภัยแล้วทั้ง7คน
ยันต้นหางนกยูงโค่นทับ เป็นเหตุสุดวิสัย