
เพราะว่าเงินจำนวน 9000 ล้านบาทที่รัฐต้องจ่ายเป็นค่าโง่ให้กับกลุ่มบริษัทเอกชนเป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชน วันนี้ภาคประชาชนและชาวบ้านชาวบ้านคลองด่านจึงเข้าพบ ผู้ตรวจเงินแผ่นดินเพื่อถามว่ามีวิธีใดบ้างที่จะไม่ต้องจ่ายค่าโง่เหล่านี้ ด้วยพบว่ากลุ่มบริษัทเอกชน ก็ทุจริตต่อรัฐ ด้วยเช่นเดียวกัน
ดาวัลย์ จันทรหัสดี ชาวตำบลคลองด่าน และมูลนิธิบูรณะนิเวศ เข้าพบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินให้เร่งจัดทำความเห็นและข้อเสนอแก่รัฐบาลให้หยุดการจ่ายค่าโง่แก่กลุ่มบริษัทเอกชน หรือ กิจการผู้ร่วมค้า 5 บริษัท กรณีการทุจริตก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านกว่า 9,000 ล้านบาท
ศาสตราจารย์พิเศษ ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน บอกว่า ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาล ไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม ถึงทางเลือกที่จะไม่ต้องจ่ายเงินค่าโง่เหล่านี้ โดยรอให้ศาลอาญา ชั้นฎีกามีคำพิพากษากรณีกิจการผู้ร่วมค้า 5 บริษัททุจริตทำให้รัฐเสียหายถึง 20,000 ล้านบาท ในคดีนี้รัฐอยู่ในฐานะของเจ้าหนี้ ส่วนเงินที่รัฐเป็นลูกหนี้ ในคดีค่าโง่ ที่ต้องจ่ายให้กับกิจการผู้ร่วมค้า 5 บริษัท 9000 ล้านบาท จำนวนนี้ก็จะนำไปหักลบกับ 20,000 ล้านบาท ดังนั้นกิจการผู้ร่วมค้า 5 บริษัทอาจต้องจ่ายเงินค่าเสียหายแก่รัฐ ถึง 11,000 ล้านบาท กรมควบคุมมลพิษจึงยังไม่ควรจ่ายค่าโง่ให้กับกิจการผู้ร่วมค้า 5 บริษัท แต่ควรจะนำเงินไปวางทรัพย์กับศาลจนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏ ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม กรมควบคุมมลพิษจ่ายค่าโง่งวดแรกไปแล้ว 3000 ล้านบาท
นอกจากนี้ นางดาวัลย์ยังมีข้อสังเกตในกระบวนการสอบสวนเรื่องการต่อสู้คดีว่ามีหลักฐานชัดเจนหลายอย่างที่ กิจการผู้ร่วมค้า 5 บริษัท กระทำการทุจริต แต่ทำไมกรมควบคุมมลพิษถึงแพ้คดี เรื่องนี้น่าจะมีเงื่อนงำและมีการแทรกแซงการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตามข้อเสนอของชาวบ้านหลังจากนี้นอกจากจะยกเลิกการก่อสร้างโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
แต่สิ่งก่อสร้างที่เป็นซากอยู่ในพื้นที่ควรจะดัดแปลงเป็นศูนย์วิจัยและแพร่พันธุ์สัตว์น้ำของชุมชนเนื่องจากพื้นที่ตำบลคลองด่าน มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ