ศิลปะแทงหยวกกล้วย
วันที่ 22 พฤศจิกายน ที่มหาลัยวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ นายสุรินทร์ อยู่บาง ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล ปราชญ์ชาวบ้านด้านการสืบสานศิลปะการแทงหยวกกล้วย ร่วมกับอาจารย์ นักศึกษาวิชาเอกออกแบบนิเทศศิลป์ ที่ผ่านการอบรมและเรียนรู้ศิลปะการแทงหยวกกล้วย ช่วยกันแทงหยวกกล้วยให้เกิดลวดลายไทยอย่างสวยงาม ตามแบบฉบับศิลปะอันดีงามของไทย เพื่อนำไปตกแต่งกระทงและประทีปพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายสุรินทร์ กล่าวว่า ศิลปะการแทงหยวกกล้วย เป็นงานช่างสิบหมู่ประเภทช่างสลักของอ่อน โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายก็คือ ต้นกล้วย นำมาสร้างเป็นงานฝีมือ มักใช้กันในงานตกแต่งประดับประดางานมงคลต่างๆ หยวกกล้วย มีความเหนียว เนื้อหยวกละเอียด และมีสีขาวนวลสวยงาม เพื่อใช้มีดปลายแหลมแทงให้เกิดลวดลายไทยได้อย่างสวยงาม แต่ปัจจุบันศิลปะดังกล่าวเริ่มสูญหาย จึงร่วมกับ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ ถ่ายทอดศิลปะแทงหยวกกล้วยให้กับนักศึกษา คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 25 พฤศจิกายน นี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับพระราชทานกระทงและพระประทีปพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี 2558 จะนำศิลปะแทงหยวกกล้วยประดับตกแต่งบุษบกที่รองรับกระทงและพระประทีปพระราชทาน อัญเชิญแห่ไปรอบเมืองอุตรดิตถ์ ก่อนจะนำลงลอยที่ท่าน้ำน่าน หน้าวัดหมอนไม้ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ที่ตั้งห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี และเพื่อร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง และร่วมอนุรักษ์ศิลปะอันดีงามของไทย คือการแทงหยวกกล้วยไม่ให้สูญหาย จังหวัดอุตรดิตถ์ยังจัดลอยกระทงสายหยวกกล้วย 1,000 ดวง สู่ความรุ่งเรืองเมืองอุตรดิตถ์ 100 ปี จังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นสิริมงคลต่อชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย