
ภาพที่เห็นกันเจนตาในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD คือ นางอองซาน ซูจี สวมเสื้อเข้ารูป และผ้าซิ่นสีสันสดใสพร้อมพวงดอกไม้ที่ประดับมุ่นมวยผม ยามที่ผู้หญิงวัย 70 ปี เดินทางไปหาเสียงในแต่ละพื้นที่ ก็จะมีผู้คนมายืนโบกธงพรรคเอ็นแอลดีด้วยความตื่นเต้นยินดี พร้อมตะโกนเรียก "ดอว์ซู" หรือ "ดอว์ซูจี" (คำว่า ดอว์ในภาษาพม่านั้น หมายถึงผู้หญิงที่พ้นวัยสาว และมีการศึกษาสูง) นอกจากธงตราสัญลักษณ์ "นกยูงสีทอง" ที่กำลังแหงนคอมองดาวดวงโตสีขาวบนพื้นสีแดงแล้ว เสื้อผ้าหน้าผมของดอว์ซูจี ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่แปลกที่สาวรุ่นใหม่ในย่างกุ้ง จะสวมเสื้อแดงที่มีตัวอักษรสีเหลือง "Mother Su" พร้อมเปล่งเสียงตะโกนเรียก "แม่ซู"
มีคำกล่าวที่ว่า นักการเมืองที่จะได้ชัยชนะในการเมืองในยุคนี้ ต้องใช้ การตลาดทางการเมือง ในการรณรงค์หาเสียงเท่านั้น และพรรค เอ็นแอลดีใน พ.ศ.ปัจจุบัน ก็เดินหน้าหาเสียงด้วยกลยุทธ์ Political Marketing เต็มรูปแบบ พรรคเอ็นแอลดี ได้ใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดเชิงบูรณาการ อาทิ หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ประสานการออกเดินสายหาเสียงพบปะคนในพื้นที่ ทั้งรูปแบบเคาะประตูบ้าน และเปิดเวทีปราศรัย เฉพาะเวทีปราศรัย มีการออกแบบให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมพม่า และที่ขาดไม่ได้คือการประดับประดาด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม เนื่องจากจุดขายของพรรคคือ ดอว์ซูจี หรือ แม่ซู ผู้หญิงที่เป็นสัญลักษณ์ของนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งทุกเวทีเธอจะสวมเสื้อและผ้าซิ่นแบบพม่าที่ ไม่เคยซ้ำชุด แม้แต่วันเดียว สองปีก่อน ดอว์ซูจี ได้เผยแพร่วัฒนธรรมการแต่งกายของชาวพม่าและชาติพันธุ์ในเวทีโลก ด้วยภาพของผ้าถุงแบบพม่าที่สวมใส่คู่กับเสื้อแขนแบบตะวันตกที่สง่างาม ระหว่างการเดินทางเยือนยุโรป และสหรัฐอเมริกา
แทบไม่น่าเชื่อว่า ภาพของดอว์ซูจี นุ่งผ้าซิ่นและสวมเสื้อพม่าแต่สไตล์ตะวันตก เฉิดฉายในเวทีโลก จะส่งผลให้แฟชั่นเสื้อผ้าประจำชาติกลับมาได้รับความนิยมในกลุ่มสาวรุ่นใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้น สาวรุ่นใหม่ยังให้ความสนใจผ้าชนเผ่า ที่ออง ซาน ซูจีสวมใส่มากขึ้น อย่างเช่น ผ้าซิ่นของชาวชิน ชาวคะฉิ่น และซิ่นแม (ผ้าทอพื้นบ้านแถบทะเลสาบอินเล) อิทธิพลการแต่งกายแบบออง ซาน ซูจี ทำให้ อูกองซาน นักเขียน และบรรณาธิการลงทุนทำหนังสือชื่อ ตามรอยแม่ซู (Follow Mother Daw Su) ซึ่งภายในเล่มประกอบด้วยบทความ และรูปภาพเครื่องแต่งกายของออง ซาน ซูจีในหลากหลายสไตล์ตั้งแต่ในช่วงวัยเด็กจนถึงปัจจุบัน
ในศึกเลือกตั้ง 2558 คนพม่าจึงได้เห็นภาพผู้หญิงวัย 70 ปี นุ่งผ้าซิ่นสวมเสื้อเอวลอยและมุ่นมวยผมแซมดอกไม้ ที่มีลวดลายสีสันแตกต่างกันไปในแต่ละเวทีหาเสียง ยกตัวอย่าง ดอว์ซูจีไปหาเสียงที่รัฐกะเหรี่ยง ได้แต่งกายแบบชาวกะเหรี่ยงแดง หรือไปรัฐคะฉิ่น ก็แต่งกายแบบชาวคะฉิ่น และแต่งกายแบบชาวชินตอนที่ลงพื้นที่รัฐฉิ่น
นอกจากซูจีจะเป็นต้นแบบทางการเมืองให้คนหนุ่มสาวที่ศรัทธาประชาธิปไตย ได้เรียกขานว่า "แม่ซู" อย่างเต็มปากเต็มคำแล้ว เธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้สาวเมียนมาร์รุ่นใหม่กลับมาสวมใส่ชุดประจำชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่คนรุ่นใหม่ชาวพม่า จะพร้อมใจกันเป็นอาสาสมัครช่วยออง ซาน ซูจีหาเสียง จนกลายเป็นปรากฎการณ์ "แดงทั้งหงสา" ครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองเมียนมาร์