การค้นหาอุกกาบาต ที่ตกลงมายังโลก ไม่ใช่เพียงทีมข่าวเนชั่นทีวี และทีมค้นหาชาวไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก กำลังศึกษาถึงภัยพิบัติ จากนอกโลก โดยเฉพาะดาวเคราะห์น้อย หรือดาวหาง ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ เป้าหมายของการค้นหา ชิ้นส่วนอุกกาบาต จะนำไปสู่การคำนวนหาของวงโคจร ของวัตถุท้องฟ้า ที่อาจทำอันตรายต่อโลก โดยอุกกาบาตแต่ละก้อน เป็นข้อมูล ที่จะไขความลับนี้ได้
เมื่อเทียบในเรื่องของความถี่อาจจะมีแค่ประมาณปีละ 1 ครั้งเท่านั้นเองอย่าลืมว่า 3 ใน 4 ของพื้นที่โลกเป็นมหาสมุทรเพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วโอกาสที่จะเกิดการตกลงมาบนพื้นแล้วมีการจับภาพได้ตั้งแต่เคลื่อนที่ไปในอากาศด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งถึงการเก็บได้เนี่ยมันยากมากนับตั้งแต่รัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีครั้งนี้ที่เป็นครั้งแรกที่เห็นใหญ่ที่สุดที่เห็นกันเพราะว่าก่อนหน้านี้ที่มีการตรวจจับได้จากดาวเทียมก็ไม่มีผู้ใดเย็นเพราะว่าเกิดในมหาสมุทรครับ
แต่ดาวเทียมจับได้ ทั้งนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เข้ามาศึกษาอุกกาบาตเดี๋ยวจะตกลงมาจากปรากฏการณ์ลูกไฟที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมาก การค้นหาก็จะทำให้เราทราบว่าอุกกาบาตที่ตกที่บริเวณอำเภอไทรโยคจากวัตถุก้อนนี้เป็นอุกกาบาตแบบไหน บอกที่มาได้แล้ววงโคจรจะช่วยให้เราเข้าใจดียิ่งขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ไทย เชื่อว่า อุกกาบาตที่ตกในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 7 กันยายน เป็นอุกกาบาตหิน ที่หลงเหลือจากการกำเนิด ระบบสุริยะ เช่นเดียวกับอุกกาบาตร้อยละ 86 ที่ตกลงมายังโลก โดยเนื้ออุกกาบาต จะมีลักษณะที่แตกต่าง จากหินบนโลก เพราะไม่ได้ผ่านกระบวนการทับถม ทางธรณีวิทยามาก่อน องค์ประกอบของแร่ที่อยู่ภายใน คือสิ่งที่นักธรณีวิทยาสนใจ เช่นกัน
ที่จริงอุกกาบาตขนาดเล็กที่มันตกทั่วโลกปีนึงมากเลยจำนวนเป็น ล้านล้านชิ้น แต่เป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนใหญ่ก็จะตกในพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัย ส่วนที่นำธรณีสนใจเราสนใจเกี่ยวกับหินกับแร่ เราสนใจว่าอุกกาบาตเป็นชิ้นส่วนที่เกิดในช่วงที่กำเนิดโลกใหม่ใหม่ ที่เราสนใจส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับเรื่ององค์ประกอบเนื้อหินเป็นอย่างไรเทียบกับโลกแล้วเป็นอย่างไรและมีโอกาสที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจในแง่ของแร่เศรษฐกิจได้หรือไม่จริงๆ มันก็ตกมาไม่มากพอที่จะทำเมืองนะครับแต่ก็มีเหมืองแร่ที่ แคนาดาหรืออเมริกาที่นิกเกิลบริเวณนั้นอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่ชนโลก อันนี้คือสิ่งที่เราสนใจเช่นกัน
เรื่องราวของวัตถุลึกลับ จากนอกโลก ยังคงอยู่ในความสนใจ ของนักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ไทย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ อาจช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากภัยพิบัติ ที่คาดไม่ถึง