
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 30 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานลอยคนข้าม หน้าหมู่บ้านอยู่เจริญ และสะพานลอยคนข้ามหน้าชุมชนศรีประจักษ์ ถนนรังสิต-นครนายก ช่วงกม.ที่ 3-700 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้มีชาวบ้านของชุมชนอยู่เจริญ นำเอาป้ายผ้าสีแดงขนาดใหญ่ มีใจความว่า ชาวชุมชนอยู่เจริญ ขอคัดค้านการรื้อถอนสะพานลอย และการก่อสร้างสะพานกลับรถตรงจุดนี้ มาติดที่สะพานแห่งนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ชุมชนอยู่เจริญ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวนี้ ซึ่งสะพานลอยคนเดินข้ามแห่งนี้ กรมทางหลวงได้มีการสำรวจจะสร้างสะพานกลับรถแทน ทำให้การก่อสร้างจะมีสะพานลอยขวางทางอยู่ หากไม่มีการรื้อถอนออกไป เมื่อสร้างสะพานเสร็จ รถจะวิ่งขึ้นสะพานหลังคารถจะติดสะพานลอยได้
ทางด้าน นายกรพันธ์ ตรีเวช ประธานชุมชนอยู่เจริญ เปิดเผยว่า ชาวชุมชนอยู่เจริญกว่า 600 หลังคาเรือน ต่างแสดงออกถึงการคัดค้านการรื้อถอนสะพานลอยแห่งนี้ และเตรียมก่อสร้างสะพานกลับรถแทนที่สะพานลอย ซึ่งจากเรื่องดังกล่าวนี้ ที่ชาวบ้านต่างคัดค้านนั้น ก็เนื่องมาจากว่า หากไม่มีสะพานลอยแห่งนี้แล้ว ชาวบ้านหมู่บ้านอยู่เจริญ จะต้องมีความลำบากให้การเดินทางข้ามถนนไปอีกฝั่งตรงข้าม เพราะมันอันตรายเป็นอย่างมาก อีกทั้งหากสะพานลอยตรงจุดนี้ถูกรื้อไปแล้ว ชาวต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้าง จยย.รับจ้าง เพื่อไปส่งอีกยังสะพานที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณหนึ่งกิโล
นายกรพันธ์ กล่าวอีกว่า ตนเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมกรมทางหลวงถึงได้มีความคิดที่จะรื้อสะพานลอยแห่งนี้ เนื่องจากชาวบ้านในบริเวณที่มีหลายชุมชนรวมแล้วหลายพันหลังคาเรือน ที่ต่อสู้เรียกร้องไปยัง เทศบาลนครรังสิต เพื่อขอให้มีการก่อสร้างสะพานลอยแห่งนี้ขึ้น เพราะว่าก่อนจะไม่มีสะพานลอยคนข้ามแห่งนี้ ชาวบ้านในหลายชุมชนได้ข้ามถนน เพื่อไปอีกฝั่งหนึ่งแล้วเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตมาแล้วหลายสิบรายแล้ว หากว่าจะมีการรื้อถอนจริงๆชาวบ้านคงไม่ยอมอย่างแน่นอน โดยชาวบ้านจะให้ทางกรมทางหลวงย้ายจุดกลับรถแทนการรื้อสะพานลอย ซึ่งจะประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างสะพานลอยใหม่ และสะพานลอยที่จะสร้างใหม่ไม่ตรงจุดที่ชาวบ้านใช้ข้ามสะพานลอยแทน
นายกรพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีการร้องขอให้มีการทบทวนเรื่องโครงการนี้ โดยตนเองพร้อมชาวบ้านในชุมชนอยู่เจริญ ต่างได้มีการทำหนังสือคัดค้านและลงรายมือชื่อทั้งชุมชน เพื่อยืนต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผนดิน และ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานีและ เทศบาลนครรังสิต เพื่อขอให้มีการทบทวนโครงการดังกล่าวนี้
ส่วนนายอุดม แสนทวี ประธานชุมชนศรีประจักษ์ เปิดเผยว่า ชุมชนศรีประจักษ์ ที่มีชาวบ้านกว่า 400 หลังคาเรือน ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการการรื้อสะพานลอยคนข้าม แล้วดำเนินการก่อสร้างสะพานกลับรถทดแทนขึ้นมานั้น ซึ่งตนเองและชาวบ้านไม่เห็นด้วย กับการรื้อสะพานลอย เพราะมันจะส่งผลกระทบกับชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่มีสะพานข้าม ฝั่งหากจะข้ามต้องเดินไปอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรจึงจะข้ามได้ เนื่องตรงจุดนี้ชาวบ้านใช้เวลาเรียกร้องขอให้มีสะพานลอยคนข้ามมานานนับปี แต่อยู่ดี ๆ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับจะรื้อสะพานทิ้ง เพราะเห็นว่า มันเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผนดิน โดยใช่เหตุอีกทั้งสะพานลอยแห่งนี้ ยังใช้งานไม่ถึงสิบปีเลยด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ชาวบ้านจากหลายชุมชนยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงไม่มีการแจ้งชาวบ้านในเรื่องโครงการดังกล่าวนี้ หรือว่าทำประชาพิจารณ์ เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนก็ไม่มี มาบอกชาวบ้านอีกที ก็มีการทำสัญญาว่าจ้างกัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งโครงการสะพานกลับรถที่มาทดแทนสะพานลอยคนข้ามแห่งนี้นั้น ชาวบ้านหลายชุมชนในบริเวณนี้ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สารอินทรีย์ระเหย และ ก๊าซคาบอนไดออกไซค์ จากรถเล็กและรถใหญ่ที่มากลับรถตรงจุดนี้
อีกทั้งสะพานกลับรถแห่งนี้ หากก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็จะมีประโยชน์ต่อเส้นถนนคลองสาม เพียงแห่งเดียว เนื่องจากเป็นทางกลับรถทางเดียวมุ่งหน้าขาออกเพียงเท่านั้น โดยตนเองและชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านโครงการนี้ ไม่ใช้ว่าจะมาขัดขวางความเจริญทุกคนอยากเห็นความเจริญ แต่ว่าโครงการดังนี้ชาวบ้านทุกคนไม่ได้ขัดขวาง แต่ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอทบทวนอีกครั้ง โดยชาวบ้านขอให้นำสะพานกลับรถไปก่อสร้างที่บริเวณสะพานแดงคลองหนึ่ง น่าจะเหมาะสมกว่า เนื่องจากจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่คลองสามลงมาอีกด้วย นายอุดมกล่าว