นางลอเร็ตต้า อี ลินช์ รัฐมนตรียุติธรรมของสหรัฐ แถลงเมื่อวานว่า เจพี มอร์แกน เชส และ ซิตี้กรุ๊ปของสหรัฐ บาร์เคลย์สของอังกฤษ และ เดอะ รอยัล แบงค์ ออฟ สกอตแลนด์ของสก็อตแลนด์ สมรู้ร่วมคิดกันปั่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์และยูโร ในช่วงเดือน ธ.ค.2550-ม.ค.2556 และจะต้องจ่ายค่าปรับคดีอาญารวมกันเป็นเงิน 2,500 ล้านดอลลาร์ให้กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ
นอกจากนี้ธนาคารทั้ง 4 แห่ง บวกกับธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกาของสหรัฐและธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ จะจ่ายค่าปรับคดีแพ่งอีกกว่า 1,800 ล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารกลางสหรัฐฐานดำเนินการซื้อขายอย่างไม่ปลอดภัยและไม่เหมาะสมในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน และธนาคารบาร์เคลย์สจะต้องจ่ายค่าปรับอีกกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการกำกับดูแลสถาบันการเงินของอังกฤษและสหรัฐ ส่วนธนาคาร UBS ต้องจ่ายค่าปรับอีก 203 ล้านดอลลาร์สำหรับคดีโกงดอกเบี้ย
การสั่งปรับครั้งนี้เป็นการตกลงยอมความนอกศาลระหว่างผู้บริหารของธนาคารกับทางการนักค้าของธนาคารเหล่านี้สมคบกันแลกเปลี่ยนข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าผ่านห้องสนทนาออนไลน์และใช้รหัสลับในการสื่อสารกัน เพื่อนำข้อมูลมากำหนดยุทธศาสตร์การซื้อขายและปั่นอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อทำกำไรเข้ากระเป๋าตัวเองโดยสร้างความเสียหายแก่ลูกค้า
ธนาคารกลางสหรัฐสั่งให้ธนาคารทั้งหมดที่ต้องโทษปรับครั้งนี้กำกับดูแลนักค้าของตัวเองและเพิ่มการควบคุมแผนกอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัท รวมถึงอย่ามอบหมายงานให้พนักงานที่มีพฤติกรรมผิดหลักจรรยาบรรณ และอาจมีการตั้งข้อหากับพนักงานของธนาคารบางคนเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารทั้ง 5 แห่งไม่รวมแบงก์ ออฟ อเมริกา ตกลงจะยอมรับการภาคทัณฑ์ 3 ปีที่จะต้องรายงานการดำเนินงานแก่ทางการเป็นประจำ