ที่ประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วาระพิจารณาทบทวนบทบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา และบันทึกเจตนารมณ์ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งสิ้น 212 มาตรา จากทั้งหมด 315 มาตรา
โดยวันนี้ผ่าน 7 มาตรา ว่าหมวดความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการ นักการเมือง และประชาชน มาตรา 206 ว่าด้วยบทบัญญัติที่ห้ามข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีตำแหน่งและเงินเดือนประจำ และไม่ใช่ข้าราชการการเมือง ไปดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งนี้ในเจตนารมณ์ของการบังคับใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐจะหมายความถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
นอกจากนี้มีประเด็นสำคัญ ในมาตรา 215 ว่าด้วยการรับรองสิทธิและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารขององค์กรบริหารท้องถิ่น และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอาจต้องลงลึกในระดับของการทำประชามติ
ขณะที่ มาตรา 216 ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลขององค์กรบริหารท้องถิ่น ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการการส่วนท้องถิ่นโดยระบบคุณธรรมในแต่ละจังหวัด
โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คำนูณ สิทธิสมาน จะทบทวนแล้วเสร็จทั้ง 315 มาตรา ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ และจะไม่มีการแก้ไขในหลักการ สำหรับประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ฝากถึงการทำงานของ กมธ.ยกร่างฯ ในการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ได้มอบหมายให้คณะทำงานรวบรวมประเด็น เพื่อทำหนังสือชี้แจงนายกฯ ก่อนการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ครั้งถัดไปในวันที่ 9 เม.ย.นี้
ส่วนกระแสคัดค้าน นายกฯ ไม่ต้องเป็น ส.ส. ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ระบบการเลือกตั้งแบบโอเพ่นลิสต์ กมธ.ยกร่างฯ จะรับไว้พิจารณาต่อไป โดยจะนำไปพิจารณาในช่วงโค้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 25 พ.ค. - 23 ก.ค. นี้ เพราะต้องไปรับฟังความคิดเห็นจากที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ ในช่วงกลางเดือน เม.ย.อีกครั้ง
ซึ่งสมาชิก สปช. คณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยื่นเสนอขอแก้ไขเข้ามาได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญร่างแรกยังสามารถปรับแก้ได้ แต่หลังจากวันที่ 23 ก.ค. เป็นต้นไปจะไม่สามารถปรับแก้อะไรได้แล้ว จากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของ สปช. ที่จะลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในวันที่ 6 ส.ค.