ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 17 มี.ค.58 เวลา 13.00 น. พระพุทธะอิสระ หรือพระสุวิทย์ ธีรธัมโม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พระมหาโชว์ ทสสนิโย ผอ.สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และ นายเสถียร วิพรมหา อาจารย์ประจำภาควิชา สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ,174 และ 326 โดยคำฟ้องโจทก์ ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 6, 8 และ 14 มี.ค.58 จำเลยเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.วีระยุทธ ไทยสุระ พนักงานสอบสวน กก.1 ป. กล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.58 โจทก์ได้บุกรุกและกระทำการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช และกล่าวหาว่าโจทก์ใส่ความ คณะสงฆ์เพื่อให้เกิดความแตกแยก โดยจำเลยทั้งสองประสงค์ให้โจทก์รับโทษทางอาญา จะได้ขาดจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้จำเลย ยังได้แจ้งความกล่าวหาว่า โจทก์นำมวลชนบุกรุกวัดปากน้ำภาษีเจริญ พร้อมด้วยทหารและอาวุธครบมือ และได้นำสิ่งสกปรกโสโครก อ้างว่าเป็นสังฆทานไปมอบแก่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อันเป็นการลบหลู่ พูดจาคุกคาม ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์ไม่ได้บุกรุก และจำเลยทั้งสองทราบดีว่า วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ที่พลเมืองมีสิทธิตามกฎหมายที่จะใช้สอยได้ร่วมกัน ดังนั้นเมื่อโจทก์หรือพุทธศาสนิกชนผู้ใด จะเข้าไปภายในวัดปากน้ำภาษีเจริญเป็นการชั่วคราว ในเวลากลางวันก็สามารถทำได้ ประกอบกับในเวลาที่โจทก์เข้าไปภายในบริเวณวัดปากน้ำภาษีเจริญ ยังได้มีพระพรหมโมลี ได้มาพบโจทก์เพื่อทักทายปราศรัยสนทนากัน ไม่ได้มีการขับไล่โจทก์ให้ออกไปจากวัด และโจทก์ก็ไม่ได้เป็นผู้นำทหารพร้อมอาวุธติดไปด้วย โดยวันที่ 8 มี.ค.58 จำเลยที่ 2 ได้จัดแถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ทำนองว่า ช่วงที่มีความวุ่นวายทางการเมือง มีหลักฐานชัดเจนว่าพระพุทธะอิสระ เดินทางเรียกรับผลประโยชน์กับโรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วต่อมาวันที่ 14 มี.ค.58 จำเลยได้แจ้งความต่อพระครูอุดมพัฒนคุณ เจ้าอาวาดวัดพระไกรสีห์ บางกะปิ ในฐานะเจ้าคณะแขวงบางกะปิ วังทองหลาง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 กล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดขอให้ลงโทษตามกฎมหาเถรสมาคม โดยหาว่าโจทก์ล่วงละเมิดพระธรรมวินัย โดยกรรโชกทรัพย์จากโรงแรมเอสซี ปาร์ค เมื่อวันที่ 20 ก.พ.51 ต้องปาราชิกซึ่งการกระทำของจำเลย มีเจตนาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามกฎหมาย ทั้งนี้ศาลได้รับคำฟ้องในสารบบคดีหมายเลขดำ อ.985/ 2558 เพื่อมีคำสั่งต่อไปว่าจะนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์หรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ พระพุทธะอิสระ ยังได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง ต่อศาลแพ่ง จากการกระทำละเมิดดังกล่าว เรียกค่าเสียหายคนละ 60 ล้านบาทอีกด้วย ขณะที่ พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า กรณีเหตุการณ์ที่โรงแรมเอสซีปาร์คนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเงินค่าเสียหายมามอบให้ด้วยตนเอง จึงไม่ได้เป็นการกระทำผิดแต่อย่างใด เมื่อถามถึง กรณีวัดพระธรรมกาย ที่ผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่น จะมีการยอมความและถอนฟ้องคดีนั้นมองอย่างไร พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า เมื่อความผิดเกิดขึ้นแล้วคงจะไม่สามารถยอมความกันได้ และเชื่อว่าในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา คงไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น