
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. - นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักพิมพ์เอกชนได้ขอปรับเพิ่มราคาจำหน่ายหนังสือเรียนบางรายการ เบื้องต้นพบว่า มีแบบเรียนประมาณ 50 รายการจากสำนักพิมพ์ 4 แห่งขอปรับเพิ่มราคาจำหน่ายหนังสือเรียน ต่ำสุดขอเพิ่ม 2 บาท สูงสุดขอเพิ่ม 26 บาท อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังคงได้รับงบประมาณสำหรับจัดซื้อหนังสือเรียนแจกนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในวงเงินเดิม เพราะฉะนั้น สพฐ.จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆว่า ขอให้ตรึงราคาหนังสือเรียนในปี 2558 ไว้ก่อน เนื่องจากโรงเรียนไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะมาจัดซื้อหนังสือเรียนในราคาที่แพงขึ้น
สพฐ.มีอำนาจแค่การตรวจสอบต้นฉบับหนังสือเรียนเท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจในการคุมราคาเพราะเป็นสื่อเสรีไปแล้ว ไปห้ามไม่ได้สำนักพิมพ์ขึ้นราคาหนังสือไม่ได้ ได้แต่ขอความร่วมมือให้สำนักพิมพ์ช่วยตรึงราคาหนังสือเรียนไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม หากสำนักพิมพ์ยืนยันจะขึ้นราคาหนังสือเรียนก็จะส่งผลให้เสียเปรียบเอง เพราะโรงเรียนจะเลือกซื้อหนังสือเรียนของสำนักพิมพ์อื่นที่มีราคาถูกกว่า อยู่ในวงเงินงบประมาณที่ได้รับ
นายกมล กล่าวต่อว่า แบบเรียนที่ใช้อยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็นแบบเรียนของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ซึ่งตามระเบียบหลังจากใช้ไปครบ 5 ปี ต้องมาขอต่อใบอนุญาตจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือเรียนพร้อมส่งต้นฉบับให้ สพฐ.ตรวจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีแบบเรียนขอปรับเพิ่มราคามาประมาณ 50 รายการจาก 4 สำนักพิมพ์ สาเหตุที่แบบเรียนเหล่านี้มีการปรับราคาเพราะมีการเปลี่ยนจากแบบเรียนฉบับขาวดำเป็นแบบเรียนสี่สี หรือเพิ่มจำนวนหน้าอาทิเช่น หนังสือเรียนจาก 228 หน้า เป็น 246 หน้า ในราคา 105 บาท เป็น 115 บาท
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในปี 2559 สพฐ.จะมีการปรับการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวให้เพียงพอต่อการจัดซื้อแบบเรียนที่สำนักพิมพ์เอกชนยืนยันจะขึ้นราคาหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องขอดูรายละเอียดก่อน ซึ่งตนมองว่าแนวโน้มคงยาก เพราะการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวจะใช้พื้นฐานการคำนวณจากผลวิจัยตามกลไกตลาด
ส่วนกรณีในปี 2560 สถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จะเปิดเสรีให้บริษัทเอกชนเข้ามาพิมพ์แบบเรียนได้นั้น เป็นเรื่องดี แต่ในส่วนของ สพฐ.ยืนยันว่า ยังไม่มีนโยบายที่จะไม่พิมพ์แบบเรียนกับองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่ง เสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เนื่องจากต้องการช่วยอุดหนุนองค์การค้าฯให้มีรายได้ อีกทั้งคุณภาพการพิมพ์แบบเรียนขององค์การค้าฯก็ยังมีประสิทธิภาพ แม้การพิมพ์แบบเรียนอาจล่าช้าไปบ้าง