
กษัตริย์อับดุลลาห์ ที่ 2 ซึ่งทรงเสร็จสิ้นการเยือนสหรัฐเร็วกว่ากำหนดและกลับถึงกรุงอัมมานเมิ่อวาน ได้รับการต้อนรับจากฝูงชนอย่างเนืองแน่นในช่วงที่ประชาชนกำลังโศกเศร้าและโกรธแค้นต่อเหตุการณ์ที่กลุ่มไอเอสเผยแพร่คลิปวิดีโอสังหารเรืออากาศโท มูอัธ อัล-คัซซัสเบห์ นักบินของกองทัพอากาศด้วยการจุดไฟเผาทั้งเป็น
พระองค์ตรัสระหว่างประชุมกับคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงว่า เลือดของนักบินวีรบุรุษจะไม่สูญเปล่า จอร์แดนและกองทัพจะตอบโต้กลับอย่างสาสม เรากำลังทำสงครามเพื่อปกป้องศรัทธาและค่านิยมของเรา และหลักการมนุษยธรรม และสงครามครั้งนี้จะรุนแรงหนักหน่วง เราจะตามไปกำจัดศัตรูถึงถิ่น
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันจอร์แดนลงโทษประหารด้วยการแขวนคอ นางซาจิดา อัล ริชาวี สตรีอิรัก ที่ต้องโทษประหารหลังเตรียมเป็นมือระเบิดพลีชีพโจมตีโรงแรมในกรุงอัมมานเมื่อ 10 ปีก่อน กับนายไซอัด อัล คาร์โบลิ สมาชิกอัลไกดาในอิรักที่ถูกตัดสินประหารข้อหาก่อการร้ายเมื่อปี 2550 แม้ก่อนหน้านี้ไอเอสต้องการให้จอร์แดนปล่อยนางริชาวีเพื่อแลกกับชีวิตของนักบินและตัวประกันชาวญี่ปุ่น
ขณะที่นายซาฟี ยูเซฟ อัล-คัสซัสเบห์ พ่อของนักบิน พร้อมด้วยครอบครัวร่วมจัดพิธีศพให้นักบินด้วยความเศร้าสลดในเมืองคารัค และนายกรัฐมนตรีอับดุลลาห์ เอ็นซูร์และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งประชาชนหลายพันคนร่วมทำพิธีสวดศพให้ที่มัสยิดสำคัญในกรุงอัมมานด้วย
ส่วนบรรยากาศในจอร์แดนเต็มไปด้วยความสับสนระหว่างความโกรธแค้นและความต้องการล้างแค้นกับไอเอส และความไม่พอใจต่อการที่จอร์แดนไปเข้าร่วมภารกิจโจมตีทางอากาศกำจัดไอเอสในอิรักที่ถูกมองว่าเป็นเพียงผลประโยชน์ของชาติตะวันตก และมีการชุมนุมประท้วงด้วยความโกรธแค้นทั้งในกรุงอัมมาน และเมืองคารัคเมื่อวาน
นอกจากนี้ชาวปาเลสไตน์เดินขบวนที่หน้าสถานทูตจอร์แดนในเมืองรามัลเลาะห์เพื่อต่อต้านไอเอส และนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลร่วมประนามไอเอส
ขณะเดียวกันกษัตริย์ ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย ตรัสด้วยว่า การเข่นฆ่าขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม และกลุ่มหัวรุนแรงเช่นไอเอสกำลังบิดเบือนหลักการของศาสนาอิสลามส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ระงับการเข้าร่วมภารกิจโจมตีทางอากาศต่อไอเอสในอิรักชั่วคราวจนกว่าสหรัฐจะส่งเครื่องบินออสเพรย์ที่ขึ้นลงได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ไปยังอิรักเพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือนักบินกรณีเครื่องบินตก