svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เรียกสอบกระเป๋า-คนขับรถเมล์สาย 203 ยันไม่ได้ทำร้ายและผลักเด็ก ขสมก.ลงดาบห้ามรถวิ่งจนกว่าจะหาข้อยุติ

สำนักงานใหญ่ ขสมก. - เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 มกราคม นางธนัญญา แซ่อึ้ง อายุ 50 ปี และนายบำรุง พัดพรหม อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นกระเป๋ารถและคนขับรถโดยสารร่วมบริการ ขสมก. ปรับอากาศ สาย 203 หมายเลขข้างรถ 35 เดินทางมาที่สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. พร้อมกับน.ส.สายทอง แก้วคอนไทย อายุ 42 ปี เจ้าของรถคันดังกล่าว เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดินรถเอกชนร่วมบริการ หลังมีคลิปถูกเผยแพร่และมีการแชร์อย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับกรณีกระเป๋ารถโดยสารคันนี้ได้ทำร้ายร่างกายและผลักเด็กซึ่งไม่มีเงินจ่ายค่าตั๋ว ลงจากรถจนได้รับบาดเจ็บ ถูกสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาถึงความไม่เหมาะสม ทำเกินกว่าเหตุและไม่มีน้ำใจ โดยมีน.ส.บังอร แตงหอม เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 5 ฝ่ายเดินรถเอกชนร่วมบริการ ขสมก. เป็นผู้สอบสวนข้อเท็จจริง

ภายหลังการสอบสวนลงบันทึกข้อความบุคคลทั้งสองเจ้าหน้าที่ได้ให้เซ็นชื่อยืนยันในใบบันทึกคำให้การไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งระหว่างสอบข้อเท็จจริง นางธนัญญา อธิบายว่า จากคลิปที่ปรากฏขึ้นบนโลกออนไลน์ ไม่เป็นความจริง ถูกกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียว และเด็กผู้ชายคนนี้ที่จริงอายุ 19 ปี

แต่เป็นที่ทราบกันว่าเป็นเด็กพิเศษมีอาการทางสมอง จะขึ้นรถสายนี้เป็นประจำ ซึ่งรถจะวิ่งระหว่างท่าน้ำนนท์-สนามหลวง เด็กผู้ชายคนนี้มักจะขึ้นรถเมล์ป้ายหน้าห้างโลตัสบางพลัด ถ.จรัญสนิทวงค์ หรือหน้าโรงเรียน เป็นประจำและจะไปลงย่านบางกรวยแถวสะพานพระราม 7 ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเก็บค่าโดยสาร
เมื่อเขาขึ้นรถมาเสมือนเป็นผู้โดยสารวีไอพี เพราะเวลาขึ้นรถมาจะมีคนลุกให้นั่ง ตนก็มักจะพูดหยอกเสมอว่าหนีเที่ยวอีกแล้ว ไปเที่ยวไหนมา และเหตุการณ์ที่กลับกลายมาเป็นคลิปดังในโลกออนไลน์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. เขาก็ขึ้นรถมาปกติที่ป้ายเดิมตรงหน้าโรงเรียน เวลานั้นมีผู้โดยสารเกือบเต็มรถส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา จึงพูดแหย่ว่าวันนี้จ่ายค่าโดยสารด้วยนะ

นางธนัญญา กล่าวอีกว่า เป็นการพูดแหย่ปกติ แต่เข้าใจว่าเขาเป็นเด็กพิเศษที่ผ่านมาเขาก็ตอบกลับด้วยอารมณ์ขัน โดยไม่เคยได้เก็บค่าโดยสารเด็กคนนี้แม้แต่ครั้งเดียว แต่วันนั้นเขาน่าจะอารมณ์บูด หลังจากที่พูดแหย่เล่นเรื่องจ่ายค่าโดยสารด้วยนะเขาก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวไม่พอใจ เหวี่ยงกระเป๋าสีดำที่สะพายมาแล้วฟาดลงกับพื้นรถ และทำท่าจะปรี่เข้ามาหาตน ตนก็ถอยหลังพร้อมกับห้ามปรามว่าอย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวแจ้งตำรวจจับนะ

แต่เขายังไม่หยุดยังเดินเข้ามาหา ตนจึงยกกระบอกเก็บค่าโดยสารขึ้นทำท่าเหมือนจะตี แต่ไม่ได้ตี พร้อมกับชี้หน้าบอกว่า อย่าเข้ามานะ เขาจึงหยุด ตนพร้อมกับคนขับรถจึงบอกว่าทำแบบนี้รบกวนผู้อื่นคงไปด้วยกันไม่ได้ เมื่อรถวิ่งมาถึงป้ายตรงหน้าวัดบางพลัดคนขับก็จอดเปิดประตูให้ผู้โดยสารลง เขาเองก็ลงไปพร้อมกับผู้โดยสารซึ่งเขาเพิ่งขึ้นรถมาได้แค่ป้ายเดียว

ตอนที่เขาลงพร้อมกับผู้โดยสารก็ลงปกติ ไม่ได้มีการทำร้าย ไม่ได้ผลักอย่างที่ถูกกล่วหาในคลิบ เมื่อผู้โดยสารลงไปหมดแล้วขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออก ก็เห็นเขานั่งร้องไห้อยู่ที่ขอบฟุตบาธ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจะสดุดล้มหรืออะไรฉันก็ไม่ทราบ รถก็เคลื่อนออกไปรับผู้โดยสารต่อไป และยังวิ่งรถอีก 3 รอบ กระทั่งมาเป็นข่าวปรากฏคลิปดังว่าฉันทำร้ายและผลักเขาลงจากรถเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าโดยสาร อันนี้ฉันรู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่เป็นความจริงเลย คนที่ถ่ายคลิปและลงคลิปก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์บนรถ อยากให้คนที่เสพสื่อช่วยตรวจสอบก่อนจะมาด่าให้ฉันเสียหาย ทั้งที่ไม่รู้ความจริง ฉันยืนยันว่าฉันไม่ได้ทำร้ายไม่ได้ผลัก ขอความเป็นธรรมจากสังคมตรงนี้ด้วย นางธนัญญา ยืนยัน

นางธนัญญา ยังกล่าวอีกว่า ตัวเองมีวุฒิภาวะพอ รู้อะไรควรทำไม่ควรทำ เด็กคนนั้นตัวใหญ่มากตนจะไปทำอะไรได้ไม่มีทางทำอย่างที่คนในสังคมออนไลน์ด่าและกล่าวหาแน่นอน เพราะก่อนมาทำงานตรงนี้ตนเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง สอนอยู่นาน 18 ปี โดยสอนการโรงแรม และการบริหารธุรกิจ จากนั้นโรงเรียนก็ยุบไปก็มาทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์ได้ปีกว่า ถ้าทำผิดจริงยอมรับผิด แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำจริงๆ พยานบนรถที่เป็นผู้โดยสารมีเยอะแยะ ถ้ามีเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาจริงทำไมไม่มีคลิปเหตุการณ์บนรถ ลึกๆแล้วอยากคุยกับคนถ่ายและลงคลิปว่ารู้ความจริงมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช้มาโพสต์เอาสนุก แต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ภายหลังการสอบข้อเท็จจริง นางธนัญญาและนายบำรุงได้เข้าไปพูดคุยกับ นางปราณี ศุกระศร บอร์ดบริหาร ขสมก. รักษาการในฐานะผู้อำนวยการ ขสมก. ก่อนที่นางปราณีจะเปิดเผยว่า หลังจากรับทราบเรื่องคลิปดังกล่าวถูกแชร์ไปอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ก็สั่งให้ทาง ขสมก. รวมทั้งรถร่วมบริการตรวจสอบว่า เป็นรถคันไหน ใครเป็นกระเป๋า ใครเป็นคนขับ กระทั่งทราบรถและตัวบุคคล จึงได้เรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริง

ซึ่งทั้งนางธนัญญาและนายบำรงก็ให้การปฏิเสธ ว่าไมได้เป็นดั่งที่คลิปกล่าวอ้าง ขณะเดียวกันทาง ขสมก.เองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยจะต้องตามหาตัวเด็กผู้ชายในคลิป รวมทั้งพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ สอบถามตรวจสอบจนได้ข้อสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดครบถ้วน

นางปราณี กล่าวอีกว่า ระหว่างการตรวจสอบยังไม่มีข้อสรุปได้สั่งให้รถประจำทางคันนี้หยุดให้บริการ รวมทั้งคนขับรถและกระเป๋ารถก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะได้ข้อสรุป โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งการเยียวยา เบื้องต้นกำหนดในการตรวจสอบเรื่องนี้ไว้ที่ 7 วัน หากยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ก็จะต่อออกไปอีก หากการตรวจสอบสรุปว่าผิดจริง ก็จะยกเลิกเพิกถอนไม่ให้ทำหน้าที่ขับรถและกระเป๋ารถตลอดไป หากไม่ผิดก็สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่เดิมได้ปกติและเยียวยากันต่อไป

เรียกสอบกระเป๋า-คนขับรถเมล์สาย 203 ยันไม่ได้ทำร้ายและผลักเด็ก ขสมก.ลงดาบห้ามรถวิ่งจนกว่าจะหาข้อยุติ