ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ขณะที่นางสาวบ่าย โจมจา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 6 ตำบลเขาทราย อำเภอทับค้อ จังหวัดพิจิตร ผู้เสียหายที่เพิ่งเลิกงานและกำลังเดินกลับห้องพักภายซึ่งอยู่ภายในซอยตากบ ได้ถูกคนร้ายทราบชื่อภายหลังชื่อนายภาสกร หรือตี๋ มังฉกรรจ์ ที่เดินตามหลังมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ของผู้เสียหายก่อนวิ่งหนีไปที่ทางท้ายซอย โดยผู้เสียหายวิ่งไล่ติดตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขับขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา จึงได้เข้าสกัดจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้พร้อมของกลาง ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนนายภาสกร ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางปู และถูกไล่ออกจากงานจึงไม่มีงานประกอบกับตนได้เช่าห้องพักเอยู่กับแฟนสาวภายในซอยรสทิพย์ ตำบลบางปูใหม่ โดยในช่วงปีใหม่ตนและแฟนสาวจะต้องเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด
แต่เนื่องจากตนอยู่ในระหว่างตกงานจึงไม่มีเงินเป็นค่าเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด จึงได้ตัดสินใจนั่งรถสองแถวประจำทางมามาลงที่ปากซอยตรากบ เดินวนไปมาหาเหยื่อภายในซอยดังกล่าวจนกระทั้งดึก ได้พบเห็นเหยื่อที่เป็นหญิงสาวที่เดินเข้ามาในซอยเพียงลำพัง และสวมใส่สร้อยคอทองคำอยู่ที่คอ จึงรอให้ผู้เสียหานเดินมาจนถึงที่เปลี่ยวก่อนลงมือก่อเหตุ ก่อนวิ่งหลบหนี แต่ด้วยความที่ตนไม่ได้เป็นคนในละแวกที่ก่อเหตุจึงไม่รู้ทางหนีที่ไล่ จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยย่อยแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายไล่จับกุมเอาไว้ได้ และยอมรับว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เพื่อต้องการเอาเงินเป็นค่าเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาว่า วิ่งราวทรัพย์ผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป