ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งและมืด พบรถบัสรับส่งคนงาน หมายเลขทะเบียน 30-0156 ลพบุรี พลิกตะแคงอยู่ข้างถนนโดยมีผู้บาดเจ็บทั้งชายหญิงจำนวนมาก จึงให้อาสากู้ภัยนำตัวผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ซึ่งส่วนใหญ่มีบาดแผลศีรษะแตก และมีแผลตามร่างกาย โดยไม่มีผู้เสียชีวิต
ห่างไปอีกฝั่งถนนพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บน 9842 สุรินทร์ สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน มีนายเจษฏา นันทวงษ์ อายุ 31 ปี เป็นคนขับไม่ได้รับบาด ยืนรอให้การกับตำรวจ โดยเล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมากลับเพื่อน 2 คัน เดินทางจากจังหวัดสุรินทร์ มาติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
ขณะที่รถวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ตนได้ขับตามหลังรถกระบะเพื่อนอีกคัน และกำลังขับแซงรถคันหน้า โดยรถเพื่อนแซงพ้นไปแล้ว ส่วนรถตนที่ขับตามหลังแซงไม่พ้น ประกอบกับรถบัสคันดังกล่าววิ่งสวนทางมาพอดี จึงพุ่งชนประสานงาอย่างจังจนรถบัสพลิกคว่ำลงไปข้างทาง ส่งผลให้พนักงานได้รับบาดเจ็บ
ส่วนที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช พบว่ามีญาติผู้บาดเจ็บพากันเดินทางมาดูอาการกันแน่นโรงพยาบาล ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีผู้บาดเจ็บที่มากับรถบัสจำนวน 47 คน อาการไม่สาหัส ส่วนคนขับรถบัสคือ นายบุญเลิศ เรียงคำ อายุ 54 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ขับรถออกจากโรงงานกำลังพาพนักงาน 50 คน ไปส่งที่ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี แต่รถวิ่งออกจากโรงงานได้ประมาณ 10 กิโลเมตรก็มาประสพอุบัติเหตุดังกล่าว