เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2557 เวลา 14.45 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของวันที่ 18 พ.ย.2557 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สนช.) ได้เสนอต่อที่ประชุม ครม. เกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ... โดยมีสาระสำคัญกำหนดให้ผู้ชุมนุม มีหน้าที่แจ้งวัน เวลา และสถานที่ที่จะชุมนุมต่อหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่ ร่าง พ.ร.บ.นี้ ยังกำหนดขอบเขตการจัดการกับสถานที่ชุมนุมและผู้ชุมนุมให้อย่างชัดเจน รวมทั้งกำหนดด้วยว่าสถานที่ที่ต้องห้ามการชุมนุมมีที่ไหนบ้าง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สถานที่ราชการ ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ และสถานีขนส่งสาธารณะ เป็นต้น ก็เพื่อให้มีการคุ้มครอง ความสะดวกให้กับประชาชนในการชุมนุมในที่สาธารณะ
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวยืนยันว่า ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังส่งเสริมสนับสนุนให้มีการใช้สิทธิการชุมนุมที่สงบ และปราศจากความรุนแรงตามหลักการประชาธิปไตย ให้สอดคล้องกฎกติกาของประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องมือให้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายเฉพาะเพียงการชุมนุม ยังไม่มี โดยเราได้นำกฎหมายอื่นๆ มาเทียบเคียง อย่างกฎหมายจราจร การใช้เครื่องขยายเสียง กฎหมายการรักษาความสะอาด จะทำให้การชุมนุมในที่สาธารณะเกิดประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การจัดปราศรัยและกิจกรรมในระหว่าง 22.00 น. - 06.00 น. และการเดินขบวน หรือการเคลื่อนย้ายในเวลากลางคืน จะไม่สามารถทำได้ อีกทั้งผู้ชุมนุมจะต้องแจ้งวัน เวลาต่อหัวหน้าสถานีตำรวจที่รับผิดชอบท้องที่นั้นๆ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังกำหนดโทษในกรณีต่างๆ ถ้าผู้จัดการชุมนุมไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทราบว่า จะมีการจัดการชุมนุม จะมีโทษจำและปรับ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้จัดการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ว่านี้ จะมีโทษจำคุก 2-10 ปี ปรับตั้งแต่ 4 หมื่น-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในขณะเดียวกันผู้ชุมนุมที่ร่วมชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนี้ โดยที่เจ้าหน้าที่ขอให้ออกจากการชุมนุมก็ไม่ยินยอมออกตามประกาศ ก็ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นหรือ ทั้งจำทั้งปรับ