
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการสืบสวนสอบสวนขบวนการรถจดประกอบเลี่ยงภาษีว่า คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับเหตุเพลิงไหม้รถหรูที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 และดีเอสไอตั้งคณะทำงานร่วมสืบสวนประกอบด้วย กรมขนส่งทางบก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีความคืบหน้าชัดเจน โดยกรมศุลกากรได้สรุปแนวทางว่า การพิจารณาจัดเก็บภาษีรถยนต์ชนิดนำเข้าทั้งคัน จะพิจารณาว่าเป็นชุดรถสมบูรณ์จากข้อมูลเพียง 2 ส่วน คือ ข้อมูลเลขเครื่องยนต์ และเลขตัวถังรถยนต์ หากพบว่าข้อมูลทั้งสองส่วนตรงกันก็จะไม่ตรวจสอบเลขเกียร์หรือเลขชิ้นส่วนอื่นอีก ดังนั้น เมื่อมีความชัดเจนดีเอสไอจะทำหนังสือเตือนครั้งสุดท้ายให้ผู้ครอบครองจดประกอบอีก 150 คัน ให้นำรถเข้ามาตรวจสภาพก่อน หากหลีกเลี่ยงดีเอสไอจะติดตามยึดอายัดรถเพื่อนำมาคำนวณเรียกคืนภาษีให้ครบ สำหรับมูลค่าความเสียหายในส่วนของรถที่นำมาตรวจสภาพ 378 คัน พบว่ามีการสำแดงเท็จเลี่ยงภาษี 1,800 ล้านบาท
"จากการตรวจสอบรถยนต์จดประกอบราคากว่า 4 ล้านบาท จำนวน 548 คัน มีเจ้าของรถสมัครใจนำรถเข้าตรวจสภาพ 215 คัน และตรวจสภาพในภาคบังคับ 163 คัน มีรถที่ไม่ยอมเข้ารับการตรวจ 150 คัน คณะทำงานมีมติให้แจ้งเตือนเจ้าของรถครั้งสุดท้าย ทั้ง 150 คัน หากไม่นำรถเข้ามาตรวจสอบดีเอสไอจะนำกำลังออกติดตามจับกุมยึดรถ เพื่อเรียกเก็บภาษีให้ครบถ้วน โดยรถยนต์จดประกอบจะเสียภาษีนำเข้าเพียง70% แต่รถยนต์ที่นำเข้าทั้งคันจะต้องเสียภาษีไม่ต่ำกว่า 300%"พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าว
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวถึงคดีรถหรูเพลิงไหม้ที่ปากช่องขณะขนส่ง การสอบสวนทำให้ได้หลักฐานชัดเจนแล้วว่าเป็นขบวนการที่นำเข้ารถยนต์ทั้งคัน แบ่งเป็น 3 รูปแบบหลัก คือ. 1 รถยนต์ที่ขโมยมาจากประเทศมาเลเซียแล้วมาจัดทำเอกสารให้เป็นรถยนต์จดประกอบเพื่อหลบเลี่ยงภาษี โดยพบด้วยว่า รถ 2 คันใน 6 คัน ที่ดีเอสไอยึดไว้เป็นของกลางเป็นรถที่ขโมยมาจากมาเลเซีย ขับผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในคราบนักท่องเที่ยวแต่ขากลับไม่นำรถกลับออกไป ดีเอสไอจึงได้ขอศาลอนุมัติหมายจับชาวมาเลเซีย 2 คน ได้แก่ นาย Ng Chee Kiong อายุ 30 ปี และนาย Poh Boom Poy อายุ 42 ปี ในข้อหาร่วมกันนำหรือพาของที่ยังมิได้ผ่านศุลกากร โดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆในการนำของที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หรือเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆ ในการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร. ล่าสุดประเทศมาเลเซียประสานขอรับคืนรถเบนซ์ 2 คันที่ถูกขโมยมายื่นขอจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบในประเทศไทย
รูปแบบที่ 2 คือ การนำเข้ารถยนต์ใหม่ทั้งคันแต่สำแดงว่าเป็นการนำเข้าซากรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ ซึ่งการจัดเก็บฐานข้อมูลพบว่ามีรถยนต์จดประกอบซึ่งอยู่ในสารบบที่กรมการขนส่งทางบกจัดเก็บเป็นฐานข้อมูล จำนวนรถยนต์จดประกอบ 6,575 คัน ซึ่งดีเอสไอพบว่ามีรถจดประกอบที่หายไปจากสารบบ 1,350 คัน และอยู่ระหว่างการติดตาม
สำหรับรูปแบบที่. 3เป็นการลักลอบนำรถยนต์ออกจากเขตปลอดอากรหรือฟรีโซนของกรมศุลกากร โดยรถยนต์ที่จอดพักอยู่ในฟรีโซนเป็นรถยนต์ที่สำแดงว่า จอดพักเพื่อเตรียมขนส่งต่อไปยังประเทศอื่น. ขณะที่ข้อมูลจากการสืบสวนติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลขบวนการทุจริตพบว่าในการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางของกรมศุลกากร ทั้ง 2 ครั้ง ในวันที่ 3 ก.ค.57 จำนวน 357 คัน และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 57 จำนวน 240 คัน พบว่า เป็นรถยนต์ที่อยู่ในฐานข้อมูลของรถยนต์จดประกอบจำนวน 12 คัน การนำรถออกไปประมูลขายจึงเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกรถเพื่อให้สามารถจดทะเบียนได้
นอกจากนี้สิ่งที่ยืนยันได้ว่ามีการลักลอบนำรถออกจากฟรีโซนอย่างต่อเนื่องคือรถยนต์เบนลี่ย์ 1 ใน 6 คันที่ถูกไฟไหม้ที่ปากช่อง เป็นรถที่ลักลอบออกมาจากเขตฟรีโซน ในส่วนนี้สอดรับกับการแถลงข่าวของกรมศุลกากรที่ระบุว่ามีรถยนต์ของกลางสูญหายไปกว่า 500 คัน