
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่ กองบังคับการตำรวจสายตรวจ (191) พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ รองผบ.ตร. , พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. , พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. , พ.ต.ต.ศิรณวิชญ์ อินทร สว.ธร. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แถลงผลการจับกุมตัว นายวัชรพงษ์ หรือ นุ๊ก เผ่าตัน อายุ 22 ปี นักศึกษาปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขน อยู่ หมู่บ้านธนวรรณ เลขที่ 46/238 ซอยพหลโยธิน 52 แยก 43 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 103,200 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 7.241 กิโลกรัม อาวุธปืนสั้น กล็อค28 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่าง ๆ สมุดบัญชี 7 เล่ม จักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน อธง26 กทม. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
พ.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหาดังกล่าวมีพฤกติกรรมปล่อยยาเสพติดให้กับลูกค้าในย่านสายไหมและบางเขน โดยมีที่พักและแหล่งพักยาอยู่ในซอย พหลโยธิน 52 จึงขออนุมัติหมายศาลอาญาออกหมายค้นบ้านพัก และสามารถจับกุมตัวพร้อมของกลางได้ดังกล่าว นอกจากนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายบังยี ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการค้ายาเสพติด "ซ้อหมิง" อีกด้วย
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การับสารภาพว่า รับยาบ้าและยาไอซ์ มาจาก นายแฮก ซึ่งเป็นครือข่ายของบังยี จากนั้นจะนำมาขายให้กับลูกค้าย่านสายไหม ในการสอบสวนเชิงลึกพบว่า "บังยี" เป็นลูกข่ายของ ?ซ้อหมิง? โดยจะทำหน้าที่นำยาเสพติดเข้ามาขายในเพื้นที่กทม. ทั้งหมด นอกจากนี้ จะมีคนกลางอย่างเช่น นายแฮก ประมาณ 4 - 5 คน เป็นคนปล่อยยาและรับเงินจากผู้ค้ารายย่อยอีกต่อ ทั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้เป็น 1 ใน 13 คนที่เป็นลูกเครือข่าย ?บังยี? ที่อยู่ใน กทม. ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมไปแล้ว 8 ราย เหลืออีก 4 ราย ที่ยังหลบหนีอยู่
สำหรับเครือข่ายใหญ่ของซ้อหมิง ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมไปแล้ว12 คน ยึดทรัพย์สินได้รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่เป็นชาวจีน ซึ่งหลบหนีไปกบดาลที่ประเทศจีน และทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานกับทางประเทศจีนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องหารายนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนประมาณ 10 ล้านบาท และจะทำการอายัดทรัพย์สินทั้งหมด อีกทั้งหากพบว่ามีบุคคลอื่นที่มีความเกี่ยวข้องก็จะทำการตรวจสอบเพื่ออายัดและดำเนินคดีต่อไป
"ยาบ้าและยาไอซ์ล็อตนี้ที่จับได้นั้นเป็นยาบ้าล็อตเก่าซึ่งดูจากวัสดุที่ห้อ และผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นพ่อค้ารายใหญ่ในย่านสายไหม อีกทั้งยังมีความเชื่องโยงกับผู้ต้องหาค้ายาบ้าบางส่วนที่อยู่เรือนจำ อย่างไรก็ตามเครือข่าย "ซ้อหมิง" ขณะนี้ยังคงมียาบ้าเหลืออยู่อีกประมาณ 80 กิโลกรัม ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสืบสวนกลวาดล้างให้หมด อีกทั้งเครือข่ายซ้อหมิง มีจำนวนมากกว่า 100 คน และส่วนมากจะกระจายอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย" พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
ด้าน นายวัชรพงษ์ผู้ต้องหา กล่าวเตือนวัยรุ่นหรือบุคคลที่คิดที่จะเข้ามาพัวพันในเรื่องยาเสพติด ว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ตนจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะเงินที่ได้มากไม่คุ้มกับอนาคตของตนเลย จึงอยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์กับคนรุ่นหลังว่าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยว