svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

โจรออกตระเวนขโมยป้ายชื่อร้านเก่าแก่

ร้านค้าแก่เก่าในเมืองอุดรฯ ผวาโจรตระเวนขโมยป้ายชื่อร้าน และมีเหยื่อโดยไปแล้วหลายราย ทำให้ร้านที่มีป้ายทำด้วยไม้ลงรักปิดทอง ต่างถอดป้ายไปเก็บไว้ในบ้าน

ผู้ประกอบการร้านค้าในเขต เทศบาลนครอุดรธานี และอำเภอใกล้เคียง กำลังหวาดผวากับการถูกโจรกรรมป้ายชื่อร้านค้าเก่าแก่ ที่ทำจากแผ่นไม้สักสีดำ แกะสลักเป็นอักษร หรือปะด้วยตัวอักษรไม้สัก "ลงรักปิดทอง" ยุคสมัยอายุ 50-100 กว่าปี ต่างถอดป้ายหน้าร้านตัวเองไปเก็บไว้
หลังจากมีโจรมาขโมยป้ายไปหลายราย ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี อาทิ ร้านอึ้งเกียเฮง ถ.โพศรี ร้านคูจินปัก ถ.โพศรี และร้านโง้วเอ็กเซง ถ.ทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยกล้องวงจรปิดติดอยู่ที่หน้าร้าน อึ้งเกียเฮง สามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้ชัดเจนเป็นชายอายุประมาณ 30-35 ปี จำนวน 2 คน กำลังใช้บันไดอลูมิเนียมแบบพับ นำลงมาจากรถเก๋ง คาดเป็นรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 ปีนขึ้นไปปลดป้ายมาใส่ท้ายรถ และขับหลบหนี แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ขณะเดียวกันร้านค้าที่มีป้ายชื่อร้านเก่าแก่อายุมากกว่า 50 ปี ต่างพากันผวาเก็บป้ายชื่อร้านเกรงถูกขโมยนางศิริภร วงศ์โสฬสศิริ อายุ 64 ปี เจ้าของร้านอึ้งเกียเฮง ขายเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้าง ตั้งอยู่เลขที่ 193 ถ.โพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ป้ายดังกล่าวเป็นของบรรพบุรุษตั้งแต่ยุคสมัยทวด หรืออาเหล่ากง อายุมากกว่า 100 ปี ได้เดินทางมาจากประเทศจีน มาอาศัยในประเทศไทย โดยเลือกเมืองอุดรธานีเพื่อทำการค้าขาย และได้ทำป้ายชื่อร้านขึ้นมา รู้สึกเสียใจมากพูดมาทีไรก็น้ำตาไหล เหมือนกับว่าเราไม่สามารถเก็บรักษาสิ่งของหรือมรดกที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งตนเป็นรุ่นที่สี่แล้ว ไม่รู้จะบอกกับบรรพบุรุษอย่างไร ซ้ำคืนที่โจรมาขโมยจนเช้าตนก็ยังไม่รู้เรื่อง กระทั่งผ่านไป 3 -4 วัน ลูกน้องมาบอกป้ายชื่อร้านหายจึงรู้ แล้วเข้าแจ้งความ
นางไซเอีย บวรกิติวงศ์ อายุ 69 ปี เจ้าของร้าน "คูจินปัก" เปิดเผยว่า ป้ายชื่อร้านทำมาตั้งแต่สมัยพ่อ โดยสั่งทำจากกรุงเทพเมื่อ 55 ปีก่อน วันที่โจรมาขโมยไม่รู้เรื่อง จนลูกน้องมาทักจึงเห็น และมีป้ายชื่อร้านอื่นในเขตเทศบาลนครอุดรธานีหายด้วยเช่นกัน จึงบอกน้องชายสามีเจ้าของร้าน ""คูจินตังปัก" เขาก็ตัดสินใจเอาป้ายรุ่นเดียวกันออกไปเก็บไว้ในห้องเก็บของหลังบ้าน กลัวว่าจะถูกคนร้ายมาขโมย เพราะป้ายร้านอยู่คู่กับร้านมา เมื่อหายไปของใหม่ก็เอามาแทนไม่ได้ รู้สึกแปลกใจมากว่าขโมยไปทำไม ถ้าอยากได้ก็สั่งทำใหม่ ร้านทำป้ายแบบนี้ก็ยังทำอยู่
นายสัมฤทธิ์ คุณปิติลักษณ์ เจ้าของ "หจก.คูฉ่างจิว" ถ.โพศรี เปิดเผยว่า ป้ายชื่อร้านมี 3 รุ่น ตั้งแต่ป้ายรุ่นของทวด หรืออาเหล่ากง อายุประมาณ 120 ปี และป้ายชื่อร้านรุ่นปู่ หรืออากง อายุมากกว่า 80 ปี ติดอยู่บนประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลังข้างในบ้าน ป้ายที่ติดเป็นรุ่นที่สามคือรุ่นพ่อ อายุมากกว่า 50 ปี ความยาว 3 เมตร วันแรกได้ยินข่าวก็เอาป้ายลง มาทำความสะอาดแล้วเก็บไว้ 1 คืน ก่อนตัดสินใจเอาป้ายขึ้นไปติดใหม่ โดยติดตั้งให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น โดยใช้โซ่เชื่อมติดกับป้ายและแผ่นผนังปูนให้แข็งแรง แต่ก็ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจ นอนก็ไม่เต็มอิ่ม ผวาตื่นขึ้นกลางดึกออกมาดูป้ายร้านทุกคืน ยอมรับทุกวันก็ยังไม่สบายใจ เพราะเชื่อว่ามีคนต้องการป้ายเก่าที่มีร่องรอยของอดีตไปสะสม จึงมีลักษณะเป็นใบสั่งให้คนมาขโมย
ขณะที่การสอบถามตามร้านทำป้ายที่เปิดใน จ.อุดรธานี มานานกว่า 45 ปี ทราบว่าป้ายที่ถูกขโมยไปเป็นป้ายสั่งทำที่กรุงเทพ โดจะมีแผ่นไม้สักรองตัวอักษร สมัยก่อนนั้นการขนไม้สักแผ่นมาต่างจังหวัดไม่สะดวก ในส่วนของร้านที่อุดรธานี จะทำได้เพียงตัวอักษรภาษาไทย และภาษาจีนเท่านั้น ซึ่งพื้นไม้รองจะเป็นสีดำ ส่วนตัวอักษรจะเป็นสีทอง ที่ต้องทำแบบลงรักปิดทอง เรื่องขโมยป้ายไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายปีก่อนก็เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และบางจังหวัด
พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ รอง ผบก.รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า คาดคนร้ายเป็นชาย 3 คน อายุ 20-35 ปี ใช้รถยนต์เป็นพาหนะ น่าจะเป็นคนร้ายจากต่างถิ่น ตระเวนมาตามต่างจังหวัด เพื่อขโมยป้ายชื่อร้านเก่าโดยเฉพาะ ซึ่งทำด้วยไม้สัก และมีอายุมากพอสมควร เลือกเอาป้ายขนาดเล็กและเบา รวบรวมไปขายแหล่งรับซื้อในภาคกลาง ราคาไม่น่าจะสูงมากนัก เพราะปัจจุบันป้ายลักษณะนี้ยังผลิตอยู่
มีผู้เสียหายในอุดรธานีมาแจ้งความแล้ว 3 ราย แม้มูลค่าราคาป้ายจะไม่สูงนัก แต่ถือเป็นป้ายมีมูลค่าทางจิตใจมาก ขณะมีกระแสข่าวว่าในต่างอำเภอ และต่างจังหวัดก็มี แต่ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรู้สึกแปลกใจการขโมยป้าย เพราะป้ายชื่อร้านเป็นทรัพย์สินเฉพาะ คนต้องการจะเอาไปทำอะไร ทำไมไม่สั่งทำป้ายใหม่ และหากใครซื้อไปก็มีความผิด ในข้อหารับซื้อขอโจรชัดเจน อยู่กับใครก็ถูกดำเนินคดีได้ทั้งหมด " พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์กล่าว