svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สธ.พบคลินิก 12 แห่ง ทำอุ้มบุญผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี สุริยัน ปัญญาไว กับความคืบหน้ากรณีอุ้มบุญ โดยล่าสุดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แถลงสรุปผลตรวจคลินิกอุ้มบุญ ละเมิดประกาศแพทยสภา 12 แห่ง และพบให้บริการถูกต้องเพียง 2 แห่ง

นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงผลการดำเนินการตรวจสอบคลินิกสูตินรีเวช ซึ่งให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ 12 แห่ง ซึ่งได้รับรายงานเข้าข่ายละเมิดประกาศแพทยสภา ว่า จากการที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้าตรวจสอบ ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้งรวมทั้งผลการซัดทอดจากหญิงรับจ้างอุ้มบุญ พบว่า ในจำนวนคลินิกทั้ง 12 แห่ง มีเพียง 2 แห่งเท่านั้น ที่ดำเนินการถูกต้องตามประกาศแพทยสภานพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่วนอีก 7 แห่ง กระทำผิด ดังนี้ 1.ผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ปี 2541 ม.34(2) ไม่ควบคุมดูแลให้ผู้ประกิบวิชาชีพปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 5 แห่ง2. ผิดโดยการแอบเปิดสถานพยาบาล โดยไม่ขึ้นทะเบียนกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งก็คือสถานพยาบาลเถื่อน 2 แห่ง มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ปี 2541 ม.16 และ 24 ข้อหาประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2 แห่ง
ที่เหลืออีก 3 แห่ง มีความผิดโดยเป็นตัวกลางจัดหาไข่ อสุจิ และหญิงอุ้มบุญ หรือเป็นเอเจนซี่ ซึ่งจะมีผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ปี 2552 ซึ่ง สคบ.สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที
โดยขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้สั่งปิดบริการถาวรไปแล้ว 1 แห่ง คือ คลินิก All IVF และสั่งปรับปรุงโดยให้หยุดให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ 3 แห่ง คือ คลินิกเซฟเฟอร์ทีลิตี้ เซ็นเตอร์ คลินิกบางกอกไอวีเอฟ และคลินิกเอสเออาร์ที ส่วนแพทย์ที่เข้าไปเกี่ยวข้องข้างต้น พบทั้งหมด 6 คน ซึ่งขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ส่งรายชื่อทั้งหมดไปยังแพทยสภา ให้ดำเนินการเอาผิดและพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ล่าสุดกรมสนับสนุนบริการสุข แพทยสภา และราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย เห็นพ้องต้องกันในการกำหนดให้หญิงที่ตั้งครรภ์แทนต้องมีความสัมพันธุ์ทางสายเลือด ตามประกาศแพทยสภา 21/2545 ส่วนในกรณีที่ผู้ต้องการมีลูกแต่ไม่มีญาติ มีการกำหนดเพิ่มให้ส่งเรื่องมาให้แพทยสภาพิจารณาเป็นรายกรณี
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวย้ำว่า หลังจากนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะดำเนินการตรวจสอบคลินิกที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องทั้ง 45 แห่ง โดยในต่างจังหวัดจะมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ