
ถนนสายเล็กๆที่คดเคี้ยวตามแนวทิวเขา สองข้างทางโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ คือถนนสายนครราชสีมา-บ้านบุไผ่-กบินทร์บุรี หรือที่รู้จักกันในชื่อทางหลวงหมายเลข 304 ถนนสายประวัติศาสตร์ที่ขนาบข้างด้วยอุทยานแห่งชาติ 2 แห่ง คืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ผืนป่าที่หลายคนรู้จักในชื่อผืนป่าดงพญาเย็น -เขาใหญ่ เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ แถมมีความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นผืนป่าที่ถือว่าอุดมสมบูรณ์ มีความโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 ยูเนสโกประกาศให้ผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 2 ของไทยทางหลวงหมายเลข 304 เป็นเส้นทางสายยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าด้วยกัน เส้นทางสายหลักที่รองรับการขนส่งสินค้าจากอีสานสู่ท่าเรือแหลมฉบังและนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก กรมทางหลวงจึงบรรจุเส้นทางสายนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างขยายเส้นทางเป็น 4 ช่องจราจร มีชื่อว่าโครงการก่อสร้างสายประธานเป็น 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 304 ตอน อ.กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย โดยทยอยสร้างตั้งแต่ปี 2538 การขยายถนนได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เว้นเพียงบางช่วงคือกม. 26-29และ กม. 42-57 ที่ยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อของอุทยาน 2 อุทยานผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกเมื่อปี 2548 จากนั้นในปี 2552 กรมทางหลวง ได้ให้บริษัทที่ปรึกษาจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอของโครงการสาย 304 เพื่อแก้ปัญหาที่จะกระทบกับสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นี้อดุลย์ เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 8 (นครราชสีมา) ระบุว่า ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการขยายถนนมาอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน และรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันมีรถที่ใช้เส้นทางสายกบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย เฉลี่ยกว่า 20,000 คันต่อวัน ในจำนวนนี้ร้อยละ 30 เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่แทบทุกเดือนในปี 2552 กรมทางหลวงให้บริษัทที่ปรึกษาจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอของโครงการทางหลวงสาย 304 และทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลก ใช้เวลาพิจารณานาน 5 ปี กระทั่งวันที่ 23 กรกฎาคม 2557 คณะกรรมการระดับชาติที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เป็นประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม มีมติอนุมัติให้ดำเนินการโครงการขยายถนนสาย 304 ตอน อ.กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย ภายใต้การประชุมที่พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติร่วมประชุมด้วย"ส่วนข้อกังวลที่เกรงว่าการขยายถนนสาย 304 จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น อดุลย์ กล่าวว่า การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ กรมทางหลวงได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้รู้ความคืบหน้า ส่วนช่วงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่านั้นได้ให้บริษัทออกแบบการก่อสร้างถนนให้เชื่อมผืนป่า ที่ผ่านมามีการนำเสนอ 5 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบอุโมงค์ผ่านเขา 2.รูปแบบทางยกระดับ 3.รูปแบบอุโมงค์ชนิดตัดติดแล้วแบบถมกลับ 4.รูปแบบผสมผสาน และ 5. รูปแบบทางเชื่อมผืนป่าสำหรับสัตว์ข้ามเป็นแห่งๆสำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการเดินข้ามทางของสัตว์ป่าในเขตอุทยาน หลายฝ่ายมีความเห็นร่วมกันในการก่อสร้างแบบผสมผสาน เพราะว่ามีความเหมาะสม โดยปรับแนววิ่งให้มีช่องลอดเพียงพอสำหรับสัตว์เดินลอด หรือลดระดับการก่อสร้างเพื่อวางโครงสร้างอุโมค์ตื้นแล้วถมดิน เหนืออุโมงค์เป็นทางสำหรับสัตว์เดินข้าม รูปแบบการก่อสร้างจะพิจารณาจากเส้นทางเดินของสัตว์ป่าควบคู่กับลักษณะภูมิประเทศสองข้างทาง โดย กม.ที่ 42+600-42+930 จะก่อสร้างเป็นทางยกระดับ 2 สะพานคู่ให้รถขับด้านบน สัตว์ป่าเดินลอดด้านล่าง ติดตั้งแผงป้องกันเสียงดังรบกวนจากรถยนต์ ส่วนที่ กม.ที่ 42+750และ 42+8004 ให้มีทางข้ามสำหรับสัตว์ที่อาศัยเรือนยอด หรือสะพานลิงผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 8 (นครราชสีมา) บอกสำหรับชาวบ้านที่ใช้เส้นทางสาย 304 ในการเดินทางเป็นประจำอย่าง วิโรจน์ ใจตรง อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 4 ต.บุพราหม์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ต้องการให้มีการขยายถนนเป็น 4 เลน ความคับคั่งด้านการจราจร รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดความสูญเสียบ่อยครั้ง ทำให้เห็นด้วยกับการขยายถนน เพราะต้องการให้ชาวบ้าน ลูกหลานได้รับความปลอดภัยชุมชนยอมรับกับการก่อสร้าง เพราะโครงการนี้มีการพูดคุย ศึกษาผลกระทบกันมานาน ชาวบ้านเองเคยร่วมแสดงความคิดเห็นในเวทีประชุมที่หน่วยงานจัดขึ้น เมื่อเห็นรูปแบบผสมผสานที่ทางหลวงนำเสนอ คิดว่าสัตว์สามารถใช้เส้นทางได้เพราะรถที่เข้ามาจะลอดใต้อุโมงค์ ด้านบนเป็นผืนป่า เพราะสภาพภูมิประเทศเดิม พื้นที่ที่จะก่อสร้าง เป็นผืนป่าเดียวกัน ความสงบเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนทำให้สัตว์ป่าเดินข้ามทางแน่นอน โครงการจึงได้ประโยชน์ทั้งคนและสัตว์วิโรจน์ แสดงความเห็นการติดตามโครงการขยายทางหลวง 304 มาอย่างต่อเนื่อง สมบูรณ์ สิงกิ่ง แกนนำเครือข่ายอนุรักษ์ต้นน้ำมูน ระบุว่า ระยะแรกที่รู้ข่าวว่าจะมีการขยายถนนใกลุ่มนักอนุรักษ์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อผืนป่าดงพญาเย็น ทั้งเรื่องการตัดไม้ สัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ ทั้งนี้ทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า รัฐบาลจะต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าการโครงการขยายถนนจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีมาตรการที่เหมาะสมไม่ให้เกิดผลกระทบเพิ่มขึ้นหลังการก่อสร้างชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการก่อสร้างขยายถนนสาย 304 เพราะมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในส่วนของการออกแบบเชื่อมผืนป่าเพื่อให้สัตว์สามารถข้ามไปมาได้นั้น ทราบว่ามีการอนุมัติรูปแบบที่เหมาะสมแล้ว แต่ยังตั้งข้อสังเกตเรื่องรายละเอียดในการก่อสร้างว่าตรงตามที่เสนอมาหรือไม่ หากสร้างแล้วจะส่งผลกระทบต่อชุมชน สัตว์ป่าอย่างไร การออกแบบก่อสร้างอุโมงค์ไม่แน่ใจว่าจะมีระบบป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ เพราะระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ในส่วนการออกแบบที่เป็นทางให้สัตว์ข้าม คิดว่าทางผู้ออกแบบได้ออกแบบได้ดีพอสมควรสมบูรณ์ ยอมรับส่วนประเด็นที่สร้างความกังวลในเรื่องเกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนช่วงผ่านอุโมงค์ รวมถึงมาตราการการควบคุมความเร็วในการขับขี่ โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ขนสารเคมี เมื่อเกิดอุบัติเหตุมาตรการที่นำมาใช้จะได้ผลหรือไม่ ถึงแม้ว่ารัฐบาลไทยจะมีความคืบหน้าในการอนุมัติการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว อ้างอิงจากรายงานสถานภาพด้านการอนุรักษ์ ปี 2556 ของคณะกรรมการมรดกโลก อ้างว่า ข้อมูลที่ได้รับไม่ได้นำเสนอขอสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบต่อความโดดเด่นของผืนป่า ไม่มีมาตรการบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสม ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของการจราจรและการควบคุมความเร็วในการใช้ถนนและเมื่อวันที่ 13-17 ม.ค. 57 คณะทำงานจากองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ไอยูซีเอ็น ลงพื้นที่สำรวจผืนป่า จากนั้นไทยได้ส่งรายงานสถานะด้านการอนุรักษ์ในเดือนกุมภาพันธ์ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้านการอนุรักษ์และมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการขยายทางหลวง เช่น การปลูกป่า ทำโป่งเทียม และรั้ว เป็นต้น จนล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่ตั้งขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้อนุมัติรายงาน
ล่าสุดอ้างอิงจากรายงานสถานภาพด้านการอนุรักษ์ ปี 2557 เสนอให้คณะกรรมการมรดกโลกลงชื่อผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ให้อยู่ในรายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในอันตราย เนื่องจากภัยคุกคามที่รุนแรงและเพิ่มขึ้นจากการลักลอบตัดไม้และการบุกรุกเข้าไปในเขตป่ารวมทั้งการขยายรีสอร์ตที่มีต่อคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากลของผืนป่า ซึ่งยังไม่รู้ว่ากรณีการขยายถนนสาย 304 จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ถูกถอดออกจากบัญชีหรือไม่