svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สธ. เอาผิดคลินิก 'เอส เอ อาร์ ที' ทำอุ้มบุญแกมมี่ ฟันแพทย์เกี่ยวข้อง 2 คน

สธ.แจ้งความเอาผิดคลินิก เอส เอ อาร์ ทีทำอุ้มบุญแกมมี่ ฟันแพทย์เกี่ยวข้อง 2 คน ส่งชื่อแพทยสภาพิจารณาโทษ ตรวจสอบแพทย์ร่วมคลินิกอีก 10-20 คนทำผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ ส่วนกรณีเด็ก 9 รายย่านลาดพร้าว รอตำรวจสอบเพิ่ม

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมคม ที่ห้องประชุมอุทัย สุดสุข น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์อุ้มบุญว่า จากการที่กรมได้ดำเนินการตรวจสอบคลินิก เอส เอ อาร์ ที คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางสาขาสูตินรีเวช ตั้งอยู่ที่อาคารวานิช2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ตามที่มีการระบุว่าเป็นคลินิกที่ทำการอุ้มบุญให้กับน้องแกมมี่ พบว่า คลินิกแห่งนี้มีการขอขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการรับรองให้มีการใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์จากราชวิทยาลัยสูตินรีเวชแห่งประเทศไทย รวมทั้ง แพทย์ที่ดำเนินการได้รับใบอนุญาตและการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีฯเช่นเดียวกัน

น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบเวชระเบียนพบว่าแม่น้องแกมมี่มาทำการอุ้มบุญที่นี่จริง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อหลายครั้งก็ตามแต่ก็มีการตรวจสอบแล้วว่าเป็นคนเดียวกัน ดังนั้น คลินิกแห่งนี้และแพทย์ที่ดำเนินการมีความผิดฐานกระทำผิดข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยเรื่องมาตรฐานการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ โดยทำการอุ้มบุญให้กับหญิงที่ไม่ใช่ญาติโดยตรงของคู่สมรส และมีการจ่ายค่าตอบ
ส่วนของคลินิกมีความผิดมาตรา 34(2)ตามพรบ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ที่กำหนดให้ผู้ดำเนินการมีหน้าที่ควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกรมได้แจ้งความเอาผิดคลินิกแล้ว สำหรับแพทย์ได้ส่งเรื่องให้แพทยสภาพิจารณาจริยธรรม แต่เนื่องจากผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลินิกเป็นแพทย์ด้วย จึงส่งรายชื่อแพทย์จำนวน 2 คน ให้แพทยสภาดำเนินการ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ความผิดของคลินิกแห่งนี้เบื้องต้นยังไม่ถึงขึ้นต้องสั่งปิดคลินิก เพราะตามกฎหมายจะสั่งปิดสถานพยาบาลได้ต้องเกิดอันตราย พิการรุนแรง บาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบยังพบว่าคลินิกแห่งนี้มีแพทย์ที่ดำเนินการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อีก 10-20 คน และมีการดำเนินการมาแล้วทั้งสิ้นกว่า 100 ครั้ง ซึ่งจะมีการตรวจสอบทุกคนและทุกครั้งของการดำเนินการว่ามีแพทย์คนใด หรือครั้งไหนที่ทำผิดข้อบังคับแพทยสภาอีกหรือไม่ รวมถึง การตรวจสอบสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินเรื่องนี้ไดทั่วประเทศอีก 45 แห่งเฉพาะในกรุงเทพฯ 12 แห่งด้วยน.ต.นพ.บุญเรืองกล่าว น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับกรณีการเข้าช่วยเด็ก 9 คนที่ย่านลาดพร้าวซึ่งสงสัยว่าจะเกิดจากการอุ้มบุญนั้น กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าว ทราบว่ากำลังจะมีการเรียกสอบพยานเพิ่มเติม เป็นหญิงที่รับอุ้มบุญ เพื่อจะสืบถึงคลินิกที่ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากพบว่าเด็กเกิดจากการอุ้มบุญจริงแม้จะมีเพียง 1 ราย คลินิกและแพทย์ที่ทำการอุ้มบุญถือว่าทำผิดตามข้อบังคับแพทยสภาที่ทำการอุ้มบุญหญิงที่ไม่ใช่ญาติโดยตรงของคู่สมรสและมีการจ่ายค่าจ้าง