
เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ รวม 298 คน ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวฮอลแลนด์และออสเตรเลีย ที่เดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์ เพื่อจะกลับไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ได้ประสบเหตุตกในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ใกล้ชายแดนรัสเซีย โดยคาดว่าน่าจะถูกยิงด้วยขีปนาวุธ
เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 12.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะเดินทางถึงที่หมายในมาเลเซีย เวลา 06.10 น. ของเช้าวันนี้ ตามเวลามาเลเซีย แต่ปรากฏว่า ตกเสียก่อนเมื่อเวลา 17.15 น.ตามเวลายูเครน หรือ 21.15 น. ตามเวลาในไทย
เครื่องบินที่เกิดเหตุ เป็นเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH17 ซึ่งตกในเขตที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนกำลังสู้รบกับกองกำลังของรัฐบาล โดยมีรายงานว่า ขณะเครื่องบินบินเข้าใกล้เมืองชัคตาร์สก์ ในแคว้นดาเนี๊ยซค์ ที่ติดกับพรมแดนรัสเซีย ก็ได้หายไปจากจอเรดาร์ ขณะเครื่องบินอยู่ที่ความสูง 10,000 เมตร โดยจุดที่หายไป อยู่ห่างจากพรมแดนรัสเซียราว 50 กิโลเมตร
หลังจากตกลงสู่พื้นบริเวณทุ่งหญ้า ซากเครื่องบินถูกไฟไหม้รุนแรงจนเกรียมเกือบทั้งลำ ซากกระจัดกระจายครอบคลุมพื้นที่เป็นกิโลเมตร และส่วนมากเป็นเศษเล็กเศษน้อย คาดว่าไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิต กลุ่มกบฏเปิดเผยว่าพวกเขาพบกล่องดำของเครื่องบินแล้ว และจะส่งมอบมันให้กับฝ่ายรัสเซีย
หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้หารือกันทางโทรศัพท์ทันที เพราะแต่เดิม ทั้งสองจะต้องหารือกันอยู่แล้วเรื่องที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่หนักมากกว่าเดิม เพราะสหรัฐเชื่อว่ารัสเซียหนุนหลังกบฏในหลายๆ ด้าน
ในเบื้องต้น ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน นายอันโต้น เกราสเชนโก้ บอกทันทีว่าเครื่องบิน ถูกยิงตกโดยเครื่องยิงจรวดบุ๊ค ซึ่งเป็นขีปนาวุธแบบพื้นสู่อากาศที่รัสเซียให้กลุ่มกบฏ
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า เคยเห็นเครื่องยิงจรวดชนิดนี้มาแล้ว ขณะรายงานข่าวการสู้รบในยูเครน แต่กลุ่มกบฏปฏิเสธเรื่องนี้ โดยบอกว่าฝ่ายรัฐบาลยูเครนเป็นคนยิง ซึ่งฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก้ ของยูเครน บอกว่ารัฐบาลไม่ได้ยิงอะไรที่บินอยู่บนฟ้าในพื้นที่แถบที่เกิดเหตุ แต่คนยิงน่าจะเป็นกลุ่มกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย
เขาบอกด้วยว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่เครื่องบินถูกยิง หลังจากเครื่องบิน 2 ลำ ถูกยิงตกจากฝั่งรัสเซีย และเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย
แต่นายอังเดรย์ ปูร์กิ้น ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนดาเนี๊ยซค์ ที่ประกาศแยกออกมาจากยูเครน บอกว่าพวกเขาไม่มีระบบจรวดของรัสเซียอยู่ในครอบครอง จึงไม่สามารถยิงเครื่องบินได้ ส่วนยูเครน มีทั้งยุทโธปกรณ์และทีมงาน ที่จะยิงเครื่องบินในระดับสูงๆ ได้ ซึ่งเป็นการยั่วยุของทหารยูเครน
ด้านรองประธานาธิบดีโจ ไบเด้น ของสหรัฐ ได้หารือทางโทรศัพท์กับผู้นำยูเครน และเสนอที่จะให้ความช่วยเหลือ ขณะที่นางแคทเธอรีน แอชตัน ประธานฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรือ อียู เรียกร้องให้นานาชาติตรวจสอบเรื่องนี้ และให้ทุกฝ่ายให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
หลังเครื่องบินตกไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มกบฏเป็นฝ่ายเสนอให้มีการหยุดยิง 3 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการบรรเทาทุกข์ และสอบสวนเรื่องการตกของเครื่องบิน
การตกของเครื่องบินลำนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียของยูเครนเมือเดือนมีนาคม หลังไม่พอใจที่ยูเครนโค่นล้มผู้นำที่สนับสนุนรัสเซีย