พ.ต.อ.สันติ วรรณรักษ์ ผกก.สภ.เปร็ง กล่าวว่า จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบไม้กระยาเลย เช่น ไม้มะค่า ไม้ชิงชัน ไม้แดง ไม้ประดู่ ซึ่งผ่านการแปรรูปแล้วจำนวน 3,000แผ่น มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท โดยมีนายนิบุญ โชคขยายกิจ อายุ 75 ปีและน.ส.เพ๊กหงษ์ แซ่เตียว อายุ 70ปี สองสามี-ภรรยา แสดงต้นเป็นผู้ประกอบการดังกล่าว โดยระบุว่า ได้ดำเนินการขออนุญาตแปรรูปไม้เป็นสิ่งประดิษฐ์ประเภท ประตู และหน้าต่างอย่างถูกต้อง แต่เมื่อขอให้นำเอกสารหนังสือกำกับไม้แปรรูปหรือใบเบิกทางมาแสดง ไ ม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงเชื่อได้ว่า ไม้กระยาเลยที่พบทั้งหมดมีไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำส่ง พ.ต.ท.เจริญ ชาติอิสระพงษ์ พงส. ผนพ.สภ.เปร็ง เพื่อดำเนินคดีทั้ง 2 คนในข้อหา ร่วมกันมีไม้กระยาเลยแปรรูปเกินกว่า 0.20 ลบ.ม.ไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ด้านนายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ ชำนาญงาน หัวหน้าฝ่ายป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี กล่าวว่า ไม้กระยาเลยทั้งหมดที่พบนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ถูกตัดโดยใช้เลื่อยไม้ และลักลอบตัดไม้เหล่านี้มาจากป่าทางภาคเหนือ เนื่องจากระยะนี้มีการปราบปรามขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศมีจำนวนการลักลอบส่งออกน้อยลง ทำให้ขบวนการเหล่านี้หันมาลักลอบตัดไม้ประเภทนี้ส่งออกแทน ซึ่งหลังจากนี้จะนำไม้ทั้งหมดกลับไปตรวจสอบถึงที่มาและคัดแยกประเภทของไม้ ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป