
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. 57 ขณะที่ ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1206 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา) ร่วมกับ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว,พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต สวป.สภ.คลองลึก และ นายวนวัฒน์ ทัศนเสถียร นายด่านศุลกากอรัญประเทศ นำกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจค้น บริเวณจุดตรวจ อ.05 หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนอาวุธสงคราม ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทย ได้มีพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ฝั่งไทย ต่างเข้ามาสอบถาม จนท.ว่าได้เกิดข่าวลือในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาว่า จนท.ทหารไทย จะไม่อนุญาตให้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรที่ถือหนังสือเดินทางท้องถิ่น(บอเดอร์พาส)ซึ่งสามารถพักอยู่ในประเทศได้ 7 วัน ไม่สามารถพักค้างในตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทยได้อีกแล้ว ทำให้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ต่างตื่นกลัวเนื่องจากมีทรัพย์สินและสินค้าของชาวเขมรอยู่ในตลาดโรงเกลือ จำนวนมาก ว่าข่าวลือดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่ง ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1206ฯ และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้ช่วยกันชี้แจงกับพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง พ่อค้า แม่ค้า และกรรมกรชาวเขมรสามารถเดินทางเข้ามาค้าขายและทำงานในตลาดโรงเกลือ ได้ตามปกติและผู้ที่มีหนังสือเดินทางท้องถิ่นหรือบอเดอร์พาสก็สามารถพักค้างในประเทศไทยได้ไม่เกิน 7 วัน ตามข้อตกลงไม่มีการเปลี่ยนแปลง จากคำยันยันดังกล่าวทำให้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรเกิดความสะบายใจเดินทางเข้าไปค้าขายในตลาดโรงเกลือ ตามปกติ
ส่วนบรรยากาศบริเวณอาคารที่พักรอการส่งกลับแรงงานต่างด้าว สำนักงาน ตม.จว.สระแก้ว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงมี จนท.ทหารกองกำลังบูรพา และ จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ยังคงทยอยนำแรงงานต่างด้าวชาวเขมรที่ถูกจับกุมจากด่านกองกำลังบูรพา บ้านหนองกุง ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว หลายร้อยคนมาส่งที่ห้องกักกันรอการส่งกลับแรงงานต่างด้าว สำนักงาน ตม.จว.สระแก้ว ซึ่งอยู่ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นอกจากนี้ยังมี จนท.ตร.จากหลายสถานีตำรวจทั้ง จ.สระแก้ว,จ.ปราจีนบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเขมรมาส่งที่ห้องกักกันฯด้วยทำให้มียอดของแรงงานต่างด้าวชาวเขมรที่ถูกจับส่งมาเพื่อรอการผลักดันกลับประเทศที่ ห้องกักกันฯเพิ่มขึ้นกว่า 1000 คน ทำให้ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ต้องระดมกำลัง จนท.ตม.จว.สระแก้ว ที่ว่างเว้นหน้าที่เข้าเวร มาช่วยกันตรวจเช็คและทำประวัติแรงงานชาวเขมรทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังหน่วยงานข้างคียงเช่น กก.ตชด.12 พร้อมทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.อรัญประเทศฯเพื่อขอสนับสนุนรถยนต์บรรทุกเพื่อขนแรงงานชาวเขมรนำไปผลักดันกลับประเทศบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต
พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เผยว่าขณะนี้ได้เกิดสงครามข่าวลือขึ้นในกัมพูชา ซึ่งข่าวลือดังกล่าวได้แพร่สะพัดไปในโซเชี่ยนมีเดียของกัมพูชาอย่างแพร่หลาย และข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย โดยข่าวลือกล่าวหาว่าทหารไทยจะทำการกวาดล้างจับกุมชาวเขมรที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และบางข่าวลือกล่าวหาว่าทหารไทยยิงแรงงานชาวเขมรเสียชีวิตขณะเข้าจับกุมโดยเฉพาะมีบางข่าวลืออ้างว่าทหารไทยจะไม่ให้มีแรงงานเขมรเข้ามาทำงานอยู่ในประเทศ ซึ่งข่าวลือดังกล่าวได้ทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องของแรงงานชาวเขมรต่างโทรศัพท์เรียกลูกหลานและญาติตนเองกลับประเทศ ทำให้เกิดการอพยพแรงงานเขมรในประเทศไทยครั้งใหญ่เกิดขึ้นโดยมีแรงงานเขมรนับหมื่นคนส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.จังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ต่างอพยพทิ้งงานขนสัมภาระแห่เดินทางกลับประเทศทันที นับว่าเป็นสิงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้เศรษฐกิจโดยรวมโดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการต่างๆต้องหยุดชะงักเนื่องจากไม่มีแรงงานทำงาน ซึ่งจากการตรวจสอบแรงงานกัมพูชาที่ ตม.จว.สระแก้ว ผลักดันกลับประเทศในช่วง 1 สัปดาห์ รวมมีกว่า 35,000 คน แล้ว
พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้วเผยอีกว่าขณะนี้ได้ร่วมกับ ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1206ฯ ส่งชุดปฏิบัติการข่าวออกทำการสืบสวนหาต้นตอของข่าวลือดังกล่าวทั้งฝั่งไทยและฝั่งเขมรโดยได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.ตึ๊บ ยาดี รองหัวหน้า ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อสืบหาต้นตอของข่าวลือดังกล่าวเนื่องจาก พ.ต.ท.ตึ๊บ ยาดี รอง หน.ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา เผยว่าการที่มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากอพยพกลับประเทศ ยิ่งทำให้เกิดความโกลาหลในฝั่งกัมพูชา เนื่องจากไม่มีงานรองรับและยิ่งทำให้มีคนจนเพิ่มมากขึ้น กลัวเกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาก็สั่งเร่งหาต้นตอของข่าวลือดังกล่าวแล้ว
นอกจากนี้นายยอง ชวนนา อายุ 42 ปี พ่อค้าชาวเขมรนำเข้าสินค้าจากไทยในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา เผยว่า หลังจากที่นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ของไทยที่หลบหนีคดีหมิ่นสถาบันฯที่ให้สัมภาษณ์สื่อของกัมพูชาโจมตีและต่อต้านการรัฐประหารของ คสช.ได้เพียง 2 วัน ก็เริ่มมีข่าวลือว่าทหารไทยจะกวาดล้างแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทย และเริ่มแรงขึ้นทุกวันจนกระทั่งสื่อโซเชียวมีเดียของกัมพูชาเผยแพร่กันทั่วไปหมดจนทำให้ชาวเขมรต่างแตกตื่นเรียกญาติพี่น้องที่ทำงานในประเทศไทยกลับประเทศอย่างเร่งด่วนจนทำให้เกิดการอพยพแรงงานเขมรในไทยครั้งใหญ่ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการให้สัมภาษณ์ของคนไทยที่หนีคดีคนดังกล่าวหรืออาจมีการจงใจปล่อยข่าวลือเพื่อทำลายความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชา ซึ่งหากข่าวลือดังกล่าวยังไม่ยุติเกรงอาจบานปลายทำให้คนกัมพูชาไม่กล้าเข้ามาในประเทศไทยอีก "นายยอง ชวนนา" กล่าว