
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย ได้ซัดเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ชื่อ อรพิน 4 ซึ่งเป็นเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศมาเกยตื้นบริเวณแหลมสนอ่อนชายหาดสมิหลา ด้านหลังสงขลาอะควาเรี่ยม เขตเทศบาลนครสงขลา หลังเกิดเหตุ นายไพฑูรย์ ทิมนิมิตร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไมตรี นักธรรม สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพเรือและความเสียหายโดยเฉพาะผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม นายไพฑูรย์ ทิมนิมิต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่า เรือลำดังกล่าวหมายเลขทะเบียน 431001211 ขนาด 2176 ตันครอส ได้ถูกคลื่นซัดเกยตื้นเมื่อเวลาประมาณ20.30 น.ของคืนวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์เพื่อเตรียมรับก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ เอ็นจีแอล (NGL) ที่ท่าเทียบเรือของบริษัท อากิ แบม ออยล์ จำกัด ในพื้นที่ต.เขารูปช้าง เมือง จ.สงขลา มีลูกเรือทั้งหมด13 คนและเป็นเรือเปล่า โดยขณะที่จอดลอยลำทอดสมอเพื่อหลบคลื่นลมแรงอยู่บริเวณหลังเกาะหนู สมอกราวเกิดเลื่อนหลุด แม้กัปตันจะพยายามเดินเครื่องจักรใหญ่แต่ไม่ทันประกอบกับขณะเกิดเหตุมีคลื่นลมแรงจัดทำให้เรือถูกคลื่นซัดเข้าสู่บริเวณแหลมสนอ่อน ชายหาดสมิหลา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูกเรือทั้งหมดปลอดภัยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเรือไม่ได้รับความเสียหายและไม่กีดขวางทางเดินเรือรวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา ได้ประสานไปยังบริษัทเจ้าของเรือทราบว่ากำลังเตรียมการลากจูงเรือออกสู่ทะเลโดยรอให้ระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด ขณะที่ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 2 เรื่องคลื่นลมแรงในอ่าวไทย เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งระหว่างวันที่ 10-14 ม.ค. 57