svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ล่าความจริง l เปิดชนวน! อดีตเมียสั่งฆ่าเสี่ยร้านทอง (14-3-63)

15 มีนาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรณีเจ้าของร้านขายทองใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4คนรุมตีอาการสาหัสปางตาย แม้ ตำรวจ เร่งล่าจับสมุนร่วมก่อเหตุได้ 4คน แต่ไม่สามารถโยงถึงคนบงการได้ อะไรเป็นชนวนเหตุของปมฆ่า และใครอยู่เบื้องหลังการจ้างวาน ติดตามกับ ... คุณพรรณทิพา จิตราวุฒิพร ในล่าความจริง

นี่เป็นสภาพของนายอนุพันธ์ ทวีสิทธิศักดิ์ เจ้าของร้านขายทองแสงเจริญ ใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่ถูกทำร้ายที่ถูกกลุ่มคนร้าย ดักทำร้ายอาการสาหัส เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถห้างโลตัส บ้านโป่ง เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา ปมเหตุของการถูกทำร้าย นายอนุพันธ์ ให้ข้อมูลว่า หลังจากแยกทางกันจากอดีตภรรยา ได้มาขอแบ่งมรดกเพิ่ม เป็นอาคารพาณิชย์ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แต่ ตน ไม่ให้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ยกร้านขายทองไปให้แล้ว โดยมี ร.ต.อ.ภาคภูมิ ทองแจ้ง หรือ ผู้กองหยอง รอง สวป.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อนสนิทอดีตภรรยาช่วยเหลือดูแล นายอนุพันธ์ เจ้าของร้านทอง เล่าว่า ตอนที่ถูกชายฉกรรจ์ ทำร้ายคิดว่าไม่น่าจะรอด เพราะอุปกรณ์ที่ใช้เป็นเหล็กฝังน๊อตรุมตี เหมือนหวังเอาชีวิต หลังถูกทำร้าย มีอาการ สมองบวม ตับ-ม้ามฉีก กระดูกซี่โครง -แขน-มือซ้ายหัก ต้องรักษาตัวนานอยู่หลายเดือน จนเมื่ออาการดีขึ้น จึงได้แจ้งความที่ สภ.บ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 4 คน จนสามารถขยายผลโยงไปถึง ตำรวจนายหนึ่งของ สภ.บ้านโป่ง ว่าเป็นผู้จ้างวาน แต่สุดท้ายเรื่องเงียบก็หายไป ไม่มีการออกหมายจับเพิ่มเติม ทั้งที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอดยืนยันคนร้ายแล้ว นายอนุพันธ์ ยอมรับว่า รู้ตัวมีคนจ้องทำร้าย เพราะก่อนหน้านี้ช่วงปี 2561 น้องชายถูกทำร้ายรุมตี ถึง 3 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคนร้าย น่าจะรู้ว่าตีผิดคน จึงกลับมาดัก ตี ตน อีกครั้งจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังจากที่คดีความไม่มีความคืบหน้าเจ้าของร้าทอง จึงเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม และขอให้ช่วยเหลือรับโอนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีกับผู้จ้างวานก่อเหตุ ซึ่งทางกองปราบปราม ก็รับคดีนี้มาอยู่ในความรับผิดชอบ โดย พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รองผกก.กก.5 บก.ป.บอกว่า หลังจากที่กองปราบปรามรับเรื่องมาแล้ว จึงได้เร่งดำเนินการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน จนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้จ้างวาน คือ น.ส.เพชรัตน์ สิริเมธาพร อดีตภรรยาเจ้าของร้านทอง ได้ร่วมมือกับ ร.ต.อ.ภาคภูมิ ทองแจ้ง รองสวป.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อนสนิท หลังจากมีหลักฐานแน่ชัดแล้ว จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่ง พ.ต.ท.สุพจน์ ยอมรับว่าคดีนี้ยาก เพราะ ตำรวจเหมือนที่อิทธิพลในพื้นที่ และต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากคดีนี้ใกล้จะครบกำหนดฝากขังผลัดสุดท้ายก่อนส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการ สำหรับผู้ต้องหาในขบวนการสั่งฆ่าเจ้าของร้านทองมีทั้งหมด 6 คน โดยมี ร.ต.อ.ภาคภูมิ ทองแจ้ง และ น.ส.เพชรัตน์ สิริเมธาพร ร่วมมือกันเป็นผู้จ้างวาน และ ชายฉกรรจ์อีก 4 คน โดยผู้จ้างวาน 2 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกัน จ้างวาน ยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีการใดใด ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนอีก 4 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 คน 4 คนให้การรับสารภาพ ซึ่งทางตำรวจ สภ.บ้านโป่งได้ดำเนินคดีไปหมดแล้ว ส่วนผู้จ้างวาน 2 คน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองปราบปรามได้ดำเนินการส่งฟ้องศาลแล้ว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เพราะ ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการในพื้นที่ เกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยาน และ ยังให้การปฎิเสธ แม้ว่าวันนี้ เจ้าหน้าตำรวจสามารถดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายได้แล้ว แต่การดำเนินชีวิตของ นายอนุพันธ์ เจ้าของร้านทอง ไม่เหมือนเดิม เพราะหลังจากที่ถูกทำร้าย ทำให้ระบบการสั่งการของสมองช้าลง และเดินก็ไม่ปกติ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการดำเนินชีวิตที่เป็นปกติสุข เพราะอย่างน้อย เสี่ยร้านทอง ก็รู้ว่าเจ้าหน้าที่กองปราบปรามเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ เหมือนกับนโยบายของกองปราบปราม ที่เน้นย้ำเสมอว่า ไม่ว่าคดีจะยาก และมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มมีสี จะใหญ่แค่ไหนถ้าทำผิด ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่มีการละเว้น ทีมข่าว ล่าความจริง เนชั่นทีวี รายงาน

logoline