"พะยูน" เป็นหนึ่งในสัตว์สงวน ตาม พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
และจากข้อมูลสถานการณ์พะยูนโดยภาพรวมของประเทศไทย ล่าสุด คาดว่ามีจำนวนทั้งหมดประมาณ 250 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลฝั่งอันดามันประมาณ 200 ตัว โดยพบมากสุดที่เกาะลิบง จังหวัดตรัง ส่วนที่เหลืออีก 50 ตัว กระจายอยู่ในทะเลฝั่งอ่าวไทย
แต่ปี 2562 เป็นต้นมา มีรายการพะยูนเกยตื้นแล้ว 16 ตัว ไม่มีตัวใดที่รอด เฉลี่ยแล้วพะยูนเกยตื้นเดือนละ 2 ตัว และนี่ยังไม่ได้นับรวมสัตว์ทะเลหายาก อย่าง วาฬ โลมา หรือแม้กระทั่งเต่าทะเลที่เกยตื้น ตัวเลขการตายของพะยูนบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ทะเลไทยมากกว่าคำว่า "วิกฤติ"
ความสุขเล็ก ๆ ที่มาเรียมมอบให้กับคนไทยในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่มาเรียมจะตาย ก่อให้เกิดปรากฎการณ์ ที่สร้างกระแสตื่นตัวและตระหนักถึงปัญหาขยะทะเลมากขึ้น
ล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำแผนพะยูนแห่งชาติ หรือ "มาเรียมโปรเจ็ค" โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนประชากรพะยูนให้ได้อีก 50 เปอร์เซ็น ภายในระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ในแผนพะยูนแห่งชาติ ยังผลักดันให้เกิด "ลิบงโมเดล" เพื่อนำไปใช้ในพื้้นที่ 12 แห่งที่มีรายงานว่าพบพะยูนหรือพะยูนเคยอาศัยอยู่ และการเลิกเครื่องมือประมงบางชนิดที่ทำให้สัตว์ทะเลหายากเสี่ยงตายอีกด้วย
แผนพะยูนแห่งชาติ คือมรดกที่มาเรียมทิ้งไว้ให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าแผนพะยูนแห่งชาตินี้จะดูแลแค่พะยูนอย่างเดียว
มาเรียมโปรเจ็ค ยังได้ยกระดับในการดูแลทรัพยากรในท้องทะเลอย่างเป็นรูปแบบ มีทั้งการสร้างโรงพยาบาลสัตว์ทะเล / ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเล / สถานีพักพิงสัตว์พิการ / และที่สำคัญ การแก้ปัญหาขยะพลาสติก ก็จะอยู่ในแผนนี้ด้วย
ท้องทะเล คือต้นทุนสำคัญที่ทำให้เราได้ใช้สอยทรัพยากร แต่ต้องยอมรับว่าวันนี้เราได้ทำลายต้นทุนเหล่านี้ โดยที่เราไม่รู้ตัว แผนพะยูนแห่งชาติ เป็นอีกหนึ่งความหวังที่เราทุกคนจะได้แก้ตัว หันกลับมามองปัญหาขยะทะเลอย่างจริงจัง