อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันคล้ายวันเกิดครบ 70 ปีของ "นายใหญ่ - คนแดนไกล" ซึ่งก็คืออดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
สารที่ถูกส่งจากคุณทักษิณ คือ เตรียมประกาศวางมือทางการเมือง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยกำลังผลัดใบ เปลี่ยนผู้บริหารพรรคชุดใหม่พอดี ซึ่งจริงๆ แล้วการพูดแบบนี้ ถ้าจริงย่อมเป็นการบั่นทอนกำลังใจ แต่คนอย่างคุณทักษิณจะคิดและทำแบบนั้นจริงๆ หรือ หรือว่าเจ้าตัวมีแผนอย่างอื่น
ข้อมูลที่หลายๆ คนได้ยินได้ฟังกันบ้างแล้วก็คือ คุณทักษิณเตรียมตั้งพรรคใหม่ "ล่าความจริง" จึงไปสำรวจร่องรอย ไทม์ไลน์ และเหตุผลของการต้องมีพรรคการเมืองใหม่ เพื่อสู้ศึกการเมืองในระยะต่อไป ซึ่งคู่แข่งได้เปลี่ยนหน้าไปแล้ว
การถอยฉากจากพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีแค่ตัวของคุณทักษิณเท่านั้น แต่ยังมีขุนพลข้างกายอีกหลายคนด้วย นอกจากนั้นยังมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญ เช่น
กลางเดือน มิ.ย. => "คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เดินทางไปต่างประเทศ ข่าวว่าไปพบ "คนแดนไกล" เจรจาเรื่องพรรค และการผลักดันมือขวา "อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" ขึ้นมีบทบาทสำคัญในเพื่อไทย แต่ถูกแตะเบรก
3 ก.ค. => คุณภูมิธรรม เวชยชัย ประกาศวางมือจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และไม่รับทุกตำแหน่งในคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ อ้างว่าต้องการเปิดทางให้คนรุ่นใหม่มาสานต่อภารกิจ
5 ก.ค. => "เสี่ยเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ขุนพลคนสำคัญของคุณทักษิณ ประกาศกลางงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 69 ขวบ ขอล้างมือในอ่างทองคำ
12 ก.ค. => ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่เป็น คุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ตามโผ ส่วนคุณอนุดิษฐ์ เป็นเลขาธิการพรรค
คณะผู้บริหารชุดใหม่เป็นการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ รวมทั้งพยายามกลมกลืนกันระหว่างสายตรงชินวัตร กับสายตรงสุดารัตน์
คุณสมพงษ์ เป็นคนใกล้ชิด "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวคุณทักษิณ ส่วนคุณอนุดิษฐ์ เป็นมือขวาคุณหญิงหน่อย แต่มือทำงานของคุณทักษิณ สลายตัวไปหมด
ข่าวว่าช่วงที่คุณหญิงหน่อยบินไปต่างประเทศ คนแดนไกลไม่ได้แตะเบรก แต่กลับเปิดไฟเขียวยกพรรคเพื่อไทยให้คุณหญิงดูแล ส่วนตนเองจะไปตั้งพรรคใหม่ จากนั้นจึงมีข่าวคุณหญิงหน่อยเตรียมขึ้นเป็นประธานพรรคเพื่อไทย
ข่าวการตั้งพรรคใหม่ของคุณทักษิณ มีความเป็นไปได้สูงมาก จับสังเกตจากขุนพลนักยุทธศาสตร์คนสำคัญอย่าง คุณภูมิธรรม ประกาศรามือจากเพื่อไทย ส่วนขุนพลระดับนักคิดอย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง และเพื่อนพ้อง ก็เงียบผิดสังเกต มีโอกาสที่คุณทักษิณวางแผนให้คนกลุ่มนี้ปลุกปั้นและถือหางเสือพรรคการเมืองใหม่ โดยมีแรงผลักดันคือ
1. ภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทยสะบักสะบอม และล้าสมัยเกินไป รีแบรนดิ้งไม่ไหวแล้ว แถมยังมีความขัดแย้งภายในของกลุ่มต่างๆ ศักยภาพของพรรคแข่งขันได้เฉพาะกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือพลังประชารัฐเท่านั้น แต่ความสดใหม่สู้พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เลย
2. กระแสคนรุ่นใหม่กำลังมาแรง และน่าจะยั่งยืน เห็นได้จากคะแนนเสียงเลือกตั้งที่พรรคอนาคตใหม่ได้มาจากทั้งประเทศถึง 6.3 ล้านคะแนน มากเป็นอันดับ 3 เป็นรองเพียงพรรคพลังประชารัฐกับเพื่อไทยเท่านั้น แถมทิ้งห่างประชาธิปัตย์ถึงกว่า 2 ล้านคะแนน ส่วนคะแนนเขตก็ไม่ได้ขี้เหร่ เขตที่แพ้ก็ได้หลักหมื่นทั้งนั้น เรียกว่าดีกว่าประชาธิปัตย์เยอะ และสะท้อนว่าปิดยุค "คนรุ่นใหม่ไม่ไปเลือกตั้ง" ไปแล้ว
3. พรรคอนาคตใหม่น่าจะใกล้ "หมดอนาคต" เพราะน่าจะถูกยุบพรรคจากคดีเงินกู้ และหัวหน้าพรรคก็น่าจะถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองจากคดีโอนหุ้น ฉะนั้นจึงควรตั้งพรรคใหม่มารองรับเครือข่ายและแฟนคลับสีส้ม
4. การตั้งพรรคใหม่เพื่อเป็นพรรคสำรอง ยังจำเป็นสำหรับยุทธการ "แตกแบงก์พัน" เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้่งใหม่ โดยเฉพาะหากรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 อายุสั้น อยู่ไม่นาน แก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน ก็ยังต้องเจอระบบเลือกตั้งแบบ "มีชัยโมเดล" ต่อไป / การตั้งพรรคสำรองจึงยิ่งจำเป็น และเผลอๆ อาจกลายมาเป็นพรรคหลักด้วย
ที่สำคัญการต่อสู้ทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง "ขั้วพรรคเพื่อไทย" กับพรรคคนรุ่นใหม่ที่เป็นสาขา พร้อมประทับตรา "เสรีนิยม" ต่อสู้กับขั้วพรรคพลังประชารัฐที่คาดว่าจะเปิดพรรคสาขาด้วยเช่นกัน ในภาพของ "อนุรักษ์นิยม"
ส่วนประชาธิปัตย์น่าจะลดระดับลงเป็นพรรคขนาดกลาง ยกเว้นว่าพลังประชารัฐสะดุดขาตัวเอง จนพรรคเก่าแก่ฟื้นคืนชีพ