หลัง 20 พรรคพันธมิตรขั้วพลังประชารัฐ พร้อมด้วย "งูเห่า" ร่วมกันโหวตสนับสนุน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรไปเรียบร้อย แต่พรรคเก่าแก่ที่สุดของประเทศก็ยังไม่มีมติ ท่ามกลางกระแสข่าวการแย่งกันคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกลุ่มสามมิตร
ขบวนส่งเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ ต้องบอกว่าคึกคักสุดขีด แต่มีคนจับสังเกตว่า เหตุใดถึงมี "แกนนำกลุ่มสามมิตร" โดยเฉพาะ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้าร่วมเจรจาต้าอวยด้วย
ตามข่าวบอกว่า มีปัญหากันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะ "ดีล" ก่อนเลือกประธานสภา ประชาธิปัตย์ได้คุม 3 กระทรวงในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ กระทรวง พม. บวกกับรัฐมนตรีช่วยอีก 4 ตำแหน่ง ปรากฏว่าในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ไปทับไลน์กับคุณสมศักดิ์ที่จองเก้าอี้นี้มาตั้งแต่ช่วงหาเสียง เพราะประกาศนโยบายหลักที่ต้องขับเคลื่อนโดยกระทรวงเกษตรฯทั้งสิ้น เช่น โคล้านตัว เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด
การหารือระหว่างส่งเทียบเชิญต้องบอกว่า "วงเกือบแตก" แกนนำประชาธิปัตย์อ้างว่า แกนนำพลังประชารัฐอย่าง คุณอุตตม สาวนายน รับปากจะไปจัดการปัญหา พร้อมส่งคำตอบกลับมาเวลา 5 โมงเย็นเมื่อวาน สุดท้ายเมื่อไม่ตอบ ประชาธิปัตย์ก็เลยไม่มีมติ จากนั้นก็นำไปสู่แรงกระเพื่อมทางการเมืองอีกหลายระลอก สรุปปัญหาของการจัดตั้งรัฐบาลโดยนำโดยพรรคพลังประชารัฐมี 3-4 ประเด็นหลักๆ คือ
1.ข่าวการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างกลุ่มสามมิตร กับพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่เล่าให้ฟังไปแล้ว
2.ข่าว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล้วงลูกการจัดโผ ครม. และจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ทำให้ดีลไม่ลงตัว และพรรคประชาธิปัตย์โวยวาย ทำท่าไม่พอใจ
ขณะที่ปัญหาเก่าคือการมาแบบแพ็ค 3 ของ "กลุ่ม 3 ป." บิ๊กป้อม - บิ๊กป๊อก - บิ๊กประยุทธ์ ที่นายกฯแสดงเจตนาเอง และจองเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสำหรับ "บิ๊กป้อม" กับ รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทย กระทรวงเกรดเอบวก สำหรับ "บิ๊กป๊อก" พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา / ทำให้โควต้ารัฐมนตรีที่เหลือ ลดน้อยลงไปอีก (คณะรัฐมนตรีมีได้ 36 คน รวมนายกฯ แค่สายตรงนายกฯก็อย่างน้อยๆ 4-5 เก้าอี้แล้ว)
3.เมื่อ "ดีล" ประชาธิปัตย์ชะงัก พรรคกลางและเล็กก็ขยับบ้าง ทั้ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่บอกว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยก็ร่วมไม่ได้ เนื่องจากเสียงไม่พอเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ฝืนตั้งไปก็ต้องยุบสภา ตามมาด้วยพรรคชาติไทยพัฒนาที่ประกาศร่วมรัฐบาลเป็นพรรคที่ 2 ต่อจาก "กลุ่ม 11 พรรคจิ๋ว" แต่เมื่อวาน คุณวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคออกมาบอกว่าถ้าไม่ได้กระทรวงตามที่ต้องการ ก็ไปเป็นฝายค้านได้ ไม่ได้จำเป็นต้องร่วมรัฐบาล
กรณีของพรรคชาติไทยพัฒนา "ดีลเดิม" คือ 1 รัฐมนตรีว่าการ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ 1 รัฐมนตรีช่วย ที่กระทรวงเกษตรฯ แต่มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะขอเปลี่ยนกระทรวง จากกระทรวงทรัพย์ฯ เป็นกระทรวง พม. เพื่อยกกระทรวงทรัพย์ฯ ให้คุณสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำอีกคนของพรรคพลังประชารัฐ ทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาไม่พอใจ และยังสะเทือนไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่มี "ดีล" ลงตัวกับกระทรวง พม.ไปแล้ว เพื่อเตรียมผลักนนโยบายเบี้ยคนชรา
4. ข่าวลือแกนนำพรรคพลังประชารัฐขู่ยุบสภาหลังเลือกนายกฯ ถ้าบางพรรคยังต่อรองไม่หยุด คำขู่นี้เล่นเอาแกนนำบางพรรคหัวร้อนไปตามๆ กัน
ปัญหาใหญ่ทั้ง 4 ข้อนี้ ดูจะยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนนัก ขณะที่การแถลงของแกนนำพลังประชารัฐล่าสุดเมื่อตอนเที่ยง ก็ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ส่วนคนไทยที่เฝ้ารอการมีรัฐบาลใหม่ ก็คงต้องร้องเพลงรอต่อไป เพราะนักการเมืองยังตกลงกันไม่เสร็จ