พลังประชารัฐกับรัฐบาลผสม 20 พรรค....ปิดดีลการเมือง
พรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ชะตาคุณธนาธร ว่าจะได้เข้าสภาโหวตเลือกนายกฯ เลือกประธาน รองประธานหรือเปล่า เพราะถ้ารับวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.จากการถือหุ้นสื่อ และเห็นว่าคดีมีมูล ศาลอาจมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เสียงของขั้วเพื่อไทยก็จะหายไปอีก 1 เสียง
วันศุกร์ที่ 24 มีประชุมวุฒิสภา ผลโหวตที่ออกมา ทั้งประธานและรองประธานที่วางตัวไว้แล้ว ถ้าเสียงเป็นเอกภาพ ไม่ตกไม่หล่น ไม่แตกแถว ก็จะเป็นตัวการันตีว่า เสียงโหวต นายกฯ ก็จะออกมาทำนองเดียวกันในวันโหวตนายกฯวันเสาร์ที่ 25 ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เช็คเสียง วัดพลังระหว่างขั้วเพื่อไทย กับขั้วพลังประชารัฐ ขั้วเพื่อไทย 245 เสียง ขั้วพลังประชารัฐ ถ้ารวมหมด 20 พรรค จะต้องได้เสียง 253 เสียง รอลุ้นว่าจะได้เสียงครบหรือไม่ หรือใครที่จะขาดหายไป ตอนนี้สปอตไลท์ฉายจับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่มคุณชวนกับคุณอภิสิทธิ์ ที่สำคัญหากเสียงประชาธิปัตย์หายไปเยอะ เช่นเกือบๆ 10 เสียงขึ้นไป ก็ต้องรอดูว่า พลังประชารัฐจะหางูเห่ามาช่วยโหวตได้หรือไม่ เพราะตำแหน่งประธานสภามีความสำคัญมาก เนื่องจากจะเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง เป็นผู้คุมเกมการโหวตเลือกนายกฯ
วันอาทิตย์ที่ 26 เลือกตั้งใหม่ที่จังหวัดเชียงราย เป็นการชิงคะแนนกันระหว่างอนาคตใหม่กับพลังประชารัฐ และมีประชาธิปัตย์เป็นตัวสอดแทรก ผลคะแนนที่ออกมา จะเป็นตัวเพิ่มคะแนนเสียงให้พรรคที่แข่งกัน ต้องลุ้นพรรคไหนจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นอีก 1 หรือ 2 คน จาก ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ที่เลือกกันใหม่ 1 คน และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ต้องนำคะแนนมารวมคำนวณกันอีกรอบ และคาดว่าจำนวนเสียงที่เปลี่ยนแปลงนี้ จะถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการโหวตนายกฯ ต่อไป
ความเป็นไปได้ล่าสุด ขั้วพลังประชารัฐ ที่เป็นรัฐบาลผสม 20 พรรค ยังมีโอกาสมากกว่า เพราะเสียงล็อคโหวตนายกฯ ที่ต้องการถึง 376 เสียง จาก ส.ส. และ ส.ว.เป็นตัวชี้ขาด ทำให้ขั้วเพื่อไทย รวมเสียงพรรคอื่นอย่างไร ก็ไม่ได้ 376 เนื่องจากฝั่ง "พลังประชารัฐ" กับ 11 พรรคเล็ก เสียงรวมกันเกือบ 126 เสียงที่จะไปรวมกับ ส.ว. 250 เสียง เป็น 376 เสียงไปก่อนแล้วนับจากนี้ก็เตรียมนับถอยหลังรอดูผลโหวตนายกฯ และโฉมหน้า ครม.ใหม่กันต่อไป