svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ประชาธิปัตย์ส่อร่วมพลังประชารัฐ ...แต่เสียงแตก!

16 พฤษภาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มาเกาะติดความเคลื่อนไหวทางการเมืองกันบ้าง ช่วงนี้ไม่มีอะไร Hot เท่าการชิงจับขั้วตั้งรัฐบาลอีกแล้ว ล่าสุดมีข่าวลือออกมา เป็นโผ ครม.ขั้วที่ 3 คุณอนุทิน นั่งนายกฯ คุณบัญญัติ นั่งประธานสภา แต่มีเสียงปฏิเสธออกมาแล้วจากผู้ที่ถูกพาดพิง สถานการณ์จึงกลับมาที่จุดเดิม คือสปอตไลท์จับอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลผสม 20 พรรค มากที่สุดในโลก

แต่การก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 8 ของ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ทำให้ "กูรูการเมือง" คาดการณ์ว่า การรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐจะยากลำบากขึ้น และจะส่งผลให้การสานฝัน "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯสมัยสอง ไม่ง่ายอย่างที่คิด วันนี้ล่าความจริงจะพาคุณผู้ชมไปหาคำตอบว่า สิ่งที่กูรูการเมืองคาดการณ์ ว่ารัฐบาลพลังประชารัฐไม่เกิดง่ายๆ นั้น จริงหรือไม่

ก่อนอื่นเรามาหาคำตอบกันก่อนว่าทำไม "กูรูการเมือง" ถึงมองแบบนั้น สาเหตุสำคัญก็เป็นเพราะคุณจุรินทร์ไม่เคยแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ แตกต่างจากผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรคบางคนที่เปิดตัวชัดเจน อย่าง คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หนำซ้ำคุณจุรินทร์ยังได้รับแรงสนับสนุนจาก "ผู้ใหญ่ในพรรค" นำโดย คุณชวน หลีกภัย และ คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน ด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าคุณชวนไม่ได้สนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์โดดร่วมรัฐบาลโดยไม่ดูกระแสสังคม ไม่ดูตาม้าตาเรือ

อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ สาเหตุที่ทำให้คุณจุรินทร์ชนะคู่แข่งแบบขาดลอย เป็นเพราะมีคะแนน ส.ส.11 เสียงของกลุ่มคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหน้าพรรคโหวตสนับสนุน โดยแม้คุณอภิสิทธิ์จะสนิทสนมกับ คุณกรณ์ จาติกวณิช ผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรคอีกคน ในฐานะเพื่อนนักเรียนอังกฤษด้วยกัน แต่ก็ประเมินแล้วว่าถ้าเทคะแนนให้คุณกรณ์ ก็ยังเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้อยู่ดี จึงหันไปเทคะแนนให้คุณจุรินทร์ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายยึดพรรค ขณะที่เสียง ส.ส. 1 เสียง มีน้ำหนักถึง 70% ทำให้คะแนนของคุณจุรินทร์ทิ้งห่าง

และต้องไม่ลืมว่า คุณอภิสิทธิ์คือผู้ที่ประกาศไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ "บิ๊กตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และกลุ่มคุณอภิสิทธิ์ยังเห็นด้วยกับแนวทาง "ฝ่ายค้านอิสระ ด้วย

สำหรับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มคนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล คือที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ ส.ส. การวิเคราะห์แนวโน้ม จึงต้องพิจารณาจากตัวเลขผู้มีสิทธิ์โหวตตัดสินใจ พบว่าใช้เสียงกรรมการบริหารพรรค 41 เสียง กับเสียง ส.ส.อีก 52 เสียง

แต่ผลการเลือกกรรมการบริหารพรรคเมื่อวาน ปรากฏว่ามีกรรมการบริหารพรรค 7 คนเป็น ส.ส.ด้วย ฉะนั้นคะแนนโหวตรวมก็จะหายไป 7 คะแนน คือไม่ใช่เอา 41+52 เป็น 93 เสียง แต่เสียงซ้ำซ้อนต้องตัดออกไป คือจะเหลือเสียงที่จะโหวตได้จริงๆ แค่ 86 เสียง

เมื่อแยกแยะออกมาชัดๆ ระหว่างคะแนน ส.ส. กับคะแนนกรรมการบริหารพรรค โดยเอาคะแนนกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก จะพบว่า เสียง ส.ส. 52 เสียง ซ้ำซ้อน 7 เสียง ก็จะเหลือ 45 เสียง ในจำนวน ส.ส.ทั้งหมดนี้ เป็น ส.ส.เขต 33 คน น่าจะโหวตร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐทั้งหมด ขณะที่เสียงกรรมการบริหารพรรค 41 เสียง ส่วนใหญ่เป็นสายคุณชวน คุณบัญญัติ และคุณอภิสิทธิ์ งานนี้คนในพรรคเองยังยอมรับว่า เสียงก้ำกึ่งกันมากจริงๆ แนวทางที่เป็นไปได้มี 3 แนวทาง คือ

1.โหวตเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เสียงก้ำกึ่งกัน สุดท้ายเมื่อถึงเวลาโหวตเลือกนายกฯ อาจมี ส.ส.บางคน เช่น คุณอภิสิทธิ์ งดออกเสียง เพื่อรักษาจุดยืนพรรคและจุดยืนของตัวเองที่เคยประกาศว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ

2.โหวตไม่เข้าร่วมรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านอิสระ แต่แน่นอนว่าเมื่อเสียงก้ำกึ่งกัน อาจมี ส.ส.บางส่วนเป็น "งูเห่า" ได้เหมือนกัน

หรือ 3. ปล่อยฟรีโหวต โดยอ้างว่าการโหวตเลือกนายกฯเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. มติพรรคบังคับไม่ได้อยู่แล้ว แต่ปัญหาก็คืออำนาจต่อรองการร่วมรัฐบาลและแบ่งกระทรวงจะอ่อนลงไป


ประชาธิปัตย์ส่อร่วมพลังประชารัฐ ...แต่เสียงแตก!


จากการสอบถามแกนนำพรรคหลายคน ยืนยันตรงกันว่า แนวทางที่พรรคจะออกมติ "เป็นฝ่ายค้านอิสระ" มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยที่สุด โอกาสที่มากกว่าคือมติร่วมรัฐบาล แล้วแกนนำบางคนงดออกเสียง

เรื่องการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลนั้น มีข่าวอีกกระแสหนึ่งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่ระดับสูงสุดพรรค ได้คุยสายตรงกับ "บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลชุดต่อไปแล้ว และผู้ใหญ่ในพรรคได้ยืนยันกับ พลเอกประวิตร ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่ขอให้คนนอกพรรค โดยเฉพาะทหาร อย่าเข้ามาแทรกแซงกระบวนการคัดเลือกหัวหน้าพรรค และการกำหนดจุดยืนทางการเมือง โดยขอให้คนในพรรคจัดการกันเอง

ทั้งหมดนี้คือแนวโน้มท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งวิเคราะห์แล้วโอกาสสูงสุดคือเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เสียงโหวตสนับสนุนของ ส.ส.อาจไม่ครบ 52 เสียง ฉะนั้นหากพรรคพลังประชารัฐต้องการความแน่นอน โดยเฉพาะการชิงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็อาจต้องหา "งูเห่า" จากขั้วเพื่อไทยมาเติม เพื่อการันตีว่าจะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาอย่างแน่นอน คอการเมืองจึงเชื่อว่างานนี้ต้องมี "งูเห่า" อย่างน้อยๆ 20 เสียงเลยทีเดียว

นี่คือบทวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ แต่การวิเคราะห์ก็ยังมีโอกาสทั้งผิดและถูก ฉะนั้นเอาให้แน่ๆ เราไปถามแกนนำพรรคประชาธิปัตย์กันเลยดีกว่า ตอนนี้รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง คุณสาธิต ปิตุเตชะ อยู่ในสายกับเราแล้ว ไปพูดคุยกับคุณสาธิตพร้อมกัน

logoline