เรื่องนี้บานปลายพอสมควร เพราะฝั่งตำรวจก็สอบสวนกัน ฝ่ายชายวัยกลางคนที่เป็นอธิบดี จริงๆ อ้างในคลิปเลยว่าเป็นอธิบดีศาลคดีทุจริตฯ ภาค 8 เมื่อวานมีประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. ก็เลยมีมติตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง อธิบดีรายนี้คือ นายไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ
ขั้นตอนการสอบสวนของฝั่งศาลยุติธรรม มีขั้นตอนคือ คณะกรรมการรสอบข้อเท็จจริงฯ จะทำหน้าที่รวบรวมหลักฐษน และตรวจสอบพฤติการณ์ โดยเฉพาะคำพูดที่ปรากฏตามคลิป และคำชี้เเจงของอธิบดี ที่ทำหนังสือชี้แจงไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อสรุปว่ามีมูลเข้าข่ายกระทำผิดวินัยข้าราชการตุลาการหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่าจะส่งเรื่องไปยัง คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ อ.ก.ต. เพื่อพิจารณากลั่นกรองทำความเห็นส่ง ก.ต.ชุดใหญ่ พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย นี่คือกระบวนการทั้งหมด
แต่ประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และกลายเป็นข้อถกเถียงกันต่อมาก็คือ สรุปแล้วตำรวจมีอำนาจเรียกรถคันไหนให้หยุดเพื่อตรวจค้นและขอดูใบขับขี่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้กระทำความผิดหรือไม่ เรื่องนี้สังคมพูดถึงกันมาก เพราะฝ่ายหนึ่งมองว่า ถ้าไม่ได้ทำผิดอะไร ตำรวจจะมีอำนาจเรียกตรวจได้อย่างไร แต่อีกฝ่ายก็บอกว่า ตำรวจมีอำนาจตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 140 ทั้งเรียกตรวจ ทั้งออกใบสั่ง ทั้งยึดใบขับขี่ แถม พ.ร.บ.รถยนต์ ก็บังคับให้ผู้ขับขี่รถ ต้องพกพาใบอนุญาตขับขี่ด้วย ขณะที่การตั้งด่านก็เพื่อป้องปรามอาชญากรรม ฉะนั้นตำรวจมีอำนาจเต็ม งานนี้เราต้องไปคุยกับผู้รู้ ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ และเป็นผู้ที่ผลักดันการปฏิรูปตำรวจมาตลอด เราไปพูดคุยกับ พันตำรวจเอก วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองจเรตำรวจ ตอนนี้อยู่ในสายกับเราแล้ว