จับตาพลังประชารัฐตั้งรัฐบาลผสม 20 พรรค

คุณภูมิธรรมใช้คำนี้ "ประเทศชาติอยู่ในมือคนไทยทุกคนครับ อย่าให้ใครบางกลุ่มบางคนมาย่ำยีประเทศ"

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ ฝ่ายเดียวกับคุณภูมิธรรม งัดแคมเปญ "ปิดสวิทช์ ส.ว." ขึ้นมาประกาศอีกรอบ โดยมองข้ามช็อตไปถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องการเสียงเกิน 376 เสียงจากรัฐสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร 500 เสียง และวุฒิสภา 250 เสียง

พรรคอนาคตใหม่จึงชูแคมเปญรวมเสียง ส.ส.ให้ได้ 377 เสียง เพื่อปิดบทบาทของ ส.ว. ไม่ให้สามารถกำหนดตัวนายกฯผ่านการโหวตได้ (โหวตไปก็ไม่มีผล เพราะเสียง ส.ว.จะกำหนดตัวนายกฯได้ ต้องมี ส.ส.ไปร่วมโหวตอย่างน้อย 126 เมื่อรวมกับ ส.ว. 250 เสียง ก็จะเป็น 376 เสียง เกินครึ่งของรัฐสภา) ซึ่ง ณ เวลานี้ ถ้านับเฉพาะเสียงขั้วพลังประชารัฐ 3 พรรค มีอยู่ 121 เสียง ก็ยังถือว่าแคมเปญของอนาคตใหม่ยังมีความเป็นไปได้อยู่ เพราะถ้าขั้วพลังประชารัฐจะจับมือ ส.ว.250 เสียง โหวตเลือก "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ ขั้วพลังประชารัฐต้องมี 126 เสียงขึ้นไป

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ขั้วพลังประชารัฐประกาศความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ซึ่งขณะนี้เสียงของขั้วเพื่อไทยอยู่ที่ 245 เสียง หากพรรคพลังประชารัฐจะเอาชนะได้ และได้เสียงเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ต้องรวมทุกพรรคที่เหลือคือ 20 พรรคมาสนับสนุนฝ่ายตน ก็จะได้เสียงสนับสนุนทั้งหมด 253 เสียง เกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎรมา 3 เสียง (ตัวเลขนี้เป็นคนละขั้นตอนกับการโหวตเลือกนายกฯที่ใช้่เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา คือ 376 เสียงจาก 750 เสียง)

ถ้าเป็นแบบนี้จริง รัฐบาลพลังประชารัฐอาจต้องเป็นรัฐบาลผสม 20 พรรค และอาจจะเป็นรัฐบาลผสมที่มีพรรคการเมืองจับมือกันมากที่สุดในโลก