รองอธิบดีศาลปกครองยะลา นายฉัตรชัย นิติภักดิ์ บอกว่า คดีที่เข้าสู่ศาลปกครองยะลาในช่วงที่ผ่านมา มีทั้งคดีที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข การตั้งด่านตรวจตามเส้นทางต่างๆ ที่ผู้ฟ้องคดีมองว่าไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานมีความเดือดร้อนนอกจากนั้นยังมีคดีที่โอนมาจากศาลปกครองสงขลาด้วย เช่น กรณีการคลุมฮิญาบของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ปกครองกับผู้บริหารและครูในโรงเรียน จนมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง
สำหรับปัญหาการคลุมฮิญาบไปโรงเรียน ของนักเรียนหญิงมุสลิมกลุ่มหนึ่งในโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ซึ่งตั้งอยู่บนที่ธรณีสงฆ์นั้น เป็นปัญหายืดเยื้อมานานเกือบ 1 ปีแล้ว โดยทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนแต่งกายตามหลักศาสนาได้ ต้องแต่งเครื่องแบบตามระเบียบของโรงเรียนเท่านั้น อ้างเหตุผลว่าโรงเรียนตั้งมา 50 ปี ไม่เคยมีปัญหา และทั้งนักเรียนและผู้ปกครองก็ทราบกฎเหล็กข้อนี้ดีตั้งแต่ก่อนสอบเข้าเรียน จึงต้องยอมรับ
แต่ปรากฏว่านักเรียนก็ยังแต่งกายตามหลักศาสนาไปเรียนต่อ นักเรียนหญิงก็สวมฮิญาบ หรือ "ผ้าคลุมผม" ทำให้โรงเรียนตัดคะแนนความประพฤติ อ้างว่านักเรียนกระทำผิดระเบียบ ผู้ปกครองก็เลยไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา พร้อมยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทุเลาการบังคับตามระเบียบโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ที่ให้ตัดคะแนนเอาไว้ก่อน ปรากฏว่าศาลมีคำสั่งให้ระงับการตัดคะแนนตามที่มีการยื่นขอไต่สวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา และล่าสุดได้โอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของศาลปกครองยะลาแล้ว ก็ต้องรอดูว่าศาลจะชี้ขาดเรื่องนี้เมื่อใด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากอีกเรื่องหนึ่งเหมือนกัน