นิวเจนฯถึงอนาคตใหม่... การเมืองไม่ใช่แค่จินตนาการ

อนาคตใหม่กวาด ส.ส.เกือบร้อย แต่รวมพลังประชาชาติไทยคือพรรคต่ำสิบ
อาจารย์จอมเดช วิเคราะห์ว่า นิยามของ "คนรุ่นใหม่" ในวันนี้ กับนิยามของคำคำเดียวกันเมื่อหลายสิบปีก่อนได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และนิยามที่แตกต่างนี้เองที่ขยายกว้างเป็นความต่างของ "เจนเนอเรชั่น" ในจังหวะเวลาที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นยุค "อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิง" (internet of things) ทำให้คนในเจนเนอเรชั่นนี้มีวิธีคิดแตกต่างจากเจนเนอเรชั่นก่อนอย่างมาก ฉะนั้่นการจะทำให้คนเจนเนอเรชั่นนี้ลงคะแนนให้ในการเลือกตั้ง หากเปรียบเทียบกับการขายสินค้า ก็ต้องขายในสิ่งที่คนเจนฯนี้ให้ความสนใจ ไม่สามารถนำของเก่าหรือวิธีคิดเก่าๆ มาแต่งตัวใหม่เพื่อขายได้อีกแล้ว และพรรคอนาคตใหม่ก็ประสบความสำเร็จจากเงื่อนไขข้อนี้
เมื่อเปรียบมวยกันระหว่างพรรครวมพลังประชาชาติไทย กับพรรคอนาคตใหม่ จะเห็นได้ชัดเจนว่า สินค้าของอนาคตใหม่ขายง่ายกว่ามาก ฉะนั้นแม้ในการแข่งขันจะลงทุนเท่ากัน ใช้งบประมาณเท่ากัน ทรัพยากรบุคคลเหมือนกัน แต่สินค้าที่เรียกว่า "อนุรักษ์นิยม" ก็ขายไม่ได้กับคนเจนฯนี้
ในฐานะที่เคยเป็นตำรวจ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และเป็นนักอาชญาวิทยาที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของสังคม อาจารย์จอมเดช บอกว่า จุดขายของพรรคอนาคตใหม่ในทางการเมืองก็มีอันตรายไม่น้อยเหมือนกัน
และสิ่งสำคัญที่สุดที่อาจารย์จอมเดชสรุปบทเรียนแบบมองไปข้างหน้าก็คือ ชัยชนะจากสนามเลือกตั้งยังไม่ใช่บทสรุปของเรื่องนี้ เพราะความสำเร็จที่แท้จริงในทางการเมืองพิสูจน์กันที่การลงมือทำงานจริง เนื่องจากการเมืองไม่ใช่เรื่องของจินตนาการแค่เพียงอย่างเดียว
เพราะการเมืองไม่ใช่แค่เรื่องจินตนาการ...วลีนี้น่าจะเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอีกไม่นานสังคมไทยคงจะได้เห็นกัน