"บิ๊กโจ๊ก" โผล่แล้ว - ดอดเซ็นชื่อ ศปก.ตร.

หลักฐานที่ยืนยันว่าเกิดอะไรขึ้นกับ "บิ๊กโจ๊ก" มีเพียงอย่างเดียวในช่วง 2-3 วันมานี้ คือ คำสั่งย้าย "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. ตามคำสั่งที่คุณผู้ชมเห็นอยู่บนหน้าจอนี้ โดยเป็นคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ลงนามโดย ผบ.ตร. พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่ให้ย้าย พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม คือผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 5 เมษายน สื่อมวลชนไม่สามารถติดต่อ "บิ๊กโจ๊ก" ได้
ล่าสุด ในวันนี้ มีรายงานยืนยันว่า "บิ๊กโจ๊ก" ได้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร. ตามคำสั่งย้ายเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา โดย "บิ๊กโจ๊ก" เข้าไปเซ็นชื่อที่ ศปก.ตร. และมีผู้พบเห็นยืนยันว่ามีสีหน้ายิ้มแย้มปกติ
ความเคลื่อนไหวของ "บิ๊กโจ๊ก" สอดคล้องกับข่าวจากคนใกล้ชิดของนายตำรวจคนดัง ซึ่ง "ล่าความจริง" ได้พูดคุยสอบถามมาตลอด โดยทุกคนยืนยันว่า ข่าวร้ายๆ ที่ออกมาไม่เป็นความจริง ทุกข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลือ
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า พลตำรวจเอกจักรทิพย์ มอบหมายให้รอง ผบ.ตร. พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เป็นผู้ควบคุมการสอบสวน "บิ๊กโจ๊ก" โดยมีข่าวว่าจะถูกสอบสวนทั้งหมด 6 ข้อหานั้น ปรากฏว่าข่าวนี้ไม่ได้รับการยืนยันจากผู้รับผิดชอบระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และไม่มีใครได้เห็นคำสั่งดังกล่าวว่ามีจริงหรือไม่

แต่ที่แน่ๆ คือมีคำสั่งย้าย "บิ๊กโจ๊ก" จากตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ซึ่งจากคำสั่งนี้ทำให้ตีความได้ว่า พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ น่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างถาวร และสิ่งที่จะยืนยันได้ชัดเจนก็คือการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีวาระการประชุมเพียงวาระเดียว คือ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

จากวาระการประชุม ก.ตร. ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า จะมีการเสนอชื่อนายตำรวจรายอื่นมาดำรงตำแหน่งแทน "บิ๊กโจ๊ก" ซึ่งตามข่าวและคุณสมบัติความเหมาะสมก็มีอยู่หลายคน เช่น พลตำรวจโท สัญชัย สุนทรบุระ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ (ซึ่งถ้าโยกมาจริงก็น่าจะเป็นการมาดำรงตำแหน่งเพื่อคั่นเวลาโยกย้ายใหญ่ปลายปีนี้ซึ่งจะมีนายพลเกษียณกว่าร้อยตำแหน่ง) นอกจากนั้นยังมีชื่อ พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งทำงานเข้าตาผู้บังคับบัญชาระดับสูงอย่างมากในระยะหลัง แต่หากยังหาข้อยุติไม่ได้ ก็อาจให้ พลตำรวจตรี ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาวุโสอันดับ 1 รักษาราชแทนไปก่อน