svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จับพิรุธคะแนนขั้ว "เพื่อไทย" เกินครึ่งจริงหรือ?

27 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยออกมารวมตัวจับขั้วแถลงจัดตั้งรัฐบาลด้วยเหตุผลที่ว่า สามารถรวมเสียงว่าที่ ส.ส.จาก 7 พรรคได้ 255 เสียง ซึ่งเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 500 เสียงแล้ว ปรากฏว่าถ้าเราลองไล่ดูตัวเลขว่าที่ ส.ส.ของแต่ละพรรค จะเกิดคำถามว่าเป็นไปตามนี้จริงหรือไม่

พรรคเพื่อไทย 137 อนาคตใหม่ 88 ประชาชาติ 7 เพื่อชาติ 5 เสรีรวมไทย 11 พลังปวงชนไทย 1 เศรษฐกิจใหม่ 6 รวม 255 เสียงนี่คือตัวเลขก่อนจะตอบคำถามที่ตั้งไว้ว่าจะเป็นไปตามนี้หรือไม่ ไปดูตัวเลขคะแนนของแต่ละพรรคที่เริ่มคำนวนจากคะแนนบัตรดีที่แต่ละพรรคได้จากการเปิดเผยของ กกต.หลังการนับคะแนน กกต.ย้ำว่าเป็นการประกาศอย่างไม่เป็นทางการ 95% ตัวเลขนี้ยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้ แล้ว กกต.ก็ลบไปแล้ว แต่ในเมื่อเราไม่เห็นตัวจริงก็จำเป็นที่บรรดาพรรคการเมืองหรือสื่อมวลชนจะนำตัวเลขนี้มาคำนวนกันไปก่อน

ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทางฝ่ายประชาธิปไตยหยิบไปกล่าวอ้าง จนรวมเสียงได้ 255 เสียง แต่ในความเป็นจริง ไม่แน่ใจว่าฝ่ายประชาธิปไตยลืมไปหรือเปล่าว่า พรรคเพื่อไทยได้จำนวน ส.ส.เขต มากกว่าจำนวน ส.ส. พึงมี ที่พรรคตัวเองควรได้ นี่จะส่งผลให้ตัวเลขปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคอื่นต้องลดลงทั้งหมดตามสัดส่วน คะแนน ส.ส.เขต ของเพื่อไทยคือ 137 ในขณะที่ ส.ส.พึงมี ได้มาน้อยกว่า คือ 111 แน่นอนว่าเกินโควต้าไปเยอะ แต่รัฐธรรมนูญให้คงตัวเลขไว้ เพราะถือว่าประชาชนเลือกแล้ว โดยที่ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยจะเป็นศูนย์

จับพิรุธคะแนนขั้ว "เพื่อไทย" เกินครึ่งจริงหรือ?



สิ่งที่ตามมาไม่ใช่เท่านี้ เพราะจำนวนที่เกินมา คือ 137-111 = 26 จะไปกินพื้นที่ว่างในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ที่พรรคอื่นๆ จะได้รับ ทำให้พื้นที่จริงของปาร์ตี้ลิสต์เหลือว่างเท่ากับ 150-26 = 124 ที่นั่งเท่านั้นเพราะฉะนั้นการประกาศตัวเลข ส.ส.ของฝ่ายประชาธิปไตยว่ารวมกันได้ 255 จึงยากที่จะเป็นไปได้ เนื่องจาก effect คะแนนจากเพื่อไทย พรรคอื่นๆต้องถูกปรับจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ให้ลดลง
ยกตัวอย่างพรรคอนาคตใหม่ ที่จะถูกปรับลดจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มากที่สุด เพราะได้จำนวนปาร์ตี้ลิสต์ไปสัดส่วนมากที่สุด พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส.พึงมี 88 คน ส.ส.เขต 30 ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็จะเป็น 58 แต่อย่างที่บอกว่าเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตเกิน ส.ส.พึงมี อนาคตใหม่ต้องถูกปรับลดจำนวน วิธีการปรับคือ ใช้สูตรคำนวนที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (7)นำจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคนั้นๆ ที่คำนวณได้เบื้องต้น คูณด้วย 150 แล้วหารด้วยจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์รวมทุกพรรคที่เกิน จะเห็นว่าตัวเลขคือ 58x150 แล้วหารด้วย จำนวนรวมปาร์ตี้ลิสต์ (คร่าวๆอยู่ที่ 174 ) เท่ากับว่า อนาคตใหม่จะได้ปาร์ตี้ลิสต์จริง 50 รวมกับเขต 30 ก็จะเป็น 80 ที่นั่ง

นี่คือตัวอย่างของการปรับลดจำนวนสัดส่วนปาร์ตี้ลิสต์ที่เป็น effect คะแนนของเพื่อไทย ซึ่งทุกพรรคยกเว้นเพื่อไทยจะต้องถูกปรับลดกันหมด ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพรรคอื่นๆ ณ ตอนนี้ถ้ารวมเสียงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยใหม่ ก็จะไม่ถึง 255 ตามที่อ้าง แต่ท้ายที่สุด ยังไงก็ต้องรอคะแนนอย่างเป็นทางการที่ กกต.จะประกาศรับรองการเลือกตั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ทางว่า ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้เสียงเพิ่มหรือลดก็ได้ เพราะยังเหลือคะแนนที่ยังไม่ประกาศอีก 5%

logoline