svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

(คลิปข่าว) เปิด 2 ปมคาใจ คดีล่าเสือดำไม่จบง่าย!

20 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ล่าความจริงวันนี้ เปิดรายการกันที่ "คดีเสือดำ" ต่อเนื่องจากเมื่อวาน เพราะแม้จะมีคำพิพากษาจำคุก "เจ้าสัวเปรมชัย" รวม 3 ข้อหาเป็นเวลา 16 เดือนไปแล้ว ขณะที่ลูกน้องอีก 3 คน ก็โดนคุกกันถ้วนหน้า โดยศาลไม่รอลงอาญา ทุกอย่างเหมือนจะจบ แต่ไม่จบ เพราะหลายฝ่ายแสดงความข้องใจการหลุดข้อหาบางข้อหาของเจ้าสัวเปรมชัย ตามที่ "ล่าความจริง" เปิดประเด็นเป็นข้อสังเกตเอาไว้เมื่อวานนี้

ก่อนอื่นเรามาย้อนความกันนิดหนึ่งก่อน คุณเปรมชัยถูกฟ้อง 5-6 ข้อหา ในคดีล่าเสือดำ ศาลตัดสินลงโทษ 3 ข้อหา ยกฟ้อง 2 ข้อหา โดยข้อหาที่โดนตัดสินลงโทษคือ

- ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน

- สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน

- ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต (เฉพาะไก่ฟ้าหลังเทา) จำคุก 2 เดือน

ทั้ง 3 ข้อหานี้ รวมโทษจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา

ส่วนข้อหาที่ยกฟ้องคือ

- ร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

- และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำไว้ในครอบครอง

เมื่อวานนี้ "ล่าความจริง" ตั้งคำถามเอาไว้ว่า การที่คุณเปรมชัยรอดพ้นจากข้อหาครอบครองซากเสือดำ ทั้งๆ ที่ลูกน้องอีก 3 คนโดนกันถ้วนหน้า ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนจากฝั่งตำรวจหรืออัยการ ขณะที่ข้อหาล่าเสือดำ คุณเปรมชัยก็โดนเฉพาะข้อหา "เป็นผู้สนับสนุน" เท่านั้น ไม่ได้ล่าเอง และยังมีคำถามคาใจอีกข้อหนึ่งว่า เหตุใดคุณเปรมชัยจึงกลายเป็น "ผู้สนับสนุน" ซึ่งต้องรับโทษเพียง 1 ใน 3 ของความผิดนั้น เพราะคุณเปรมชัยเป็นหัวหน้าของจำเลยอีก 3 คนที่โดนข้อหาครอบครองซากเสือดำ โดยทั้ง 3 คนเป็นลูกน้องคุณเปรมชัย สังคมจึงมองว่าถ้าดูจากสถานะความสัมพันธ์ส่วนบุคคลแล้ว คุณเปรมชัยน่าจะเป็น "ผู้ใช้ จ้าง วาน หรือเป็นตัวการร่วม" ในคดี ซึ่งต้องรับโทษเท่ากัน มากกว่าที่จะเป็นเพียง "ผู้สนับสนุน"

วันนี้มีเวทีเสวนาหัวข้อ "1 ปี คดีเสือดำ กับคำตัดสินที่รอคอย" ซึ่งจัดโดยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ปรากฏว่าผู้เข้าร่วมเวทีแทบทุกคน ล้วนแสดงความกังขากับข่าวคำพิพากษาที่ออกมา โดยเฉพาะข้อหาสำคัญที่นายเปรมชัยหลุดรอดมาได้

คุณศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร บอกว่า ยังมีข้อกังวลเรื่องโทษที่นายเปรมชัยได้รับค่อนข้างเบา และที่สำคัญทำไมข้อหาครอบครองซากเสือดำจึงหลุดไป ทั้งๆ ที่ตามข่าวมีการต้มหางเสือรับประทานกัน และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าระบุว่า เป็นหางเดียวกับหนังและเลือดเสือดำที่ติดอยู่กับมีดทำครัว เขียง และคราบเลือดที่ใบหญ้าบริเวณนั้น แต่ขณะเดียวกันนายเปรมชัยกลับโดนลงโทษในข้อหาครอบครองไก่ฟ้าหลังเทา ฉะนั้นหลังจากนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียรจะติดตามคดีนี้ต่อไป

ขณะที่หัวหน้าวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก บอกแบบตรงไปตงมาว่า รู้สึกงงมากกับบางข้อหาที่นายเปรมชัยหลุึดไป และถือว่าไม่ตรงใจ โดยเฉพาะข้อหาครอบครองซากเสือดำ ซึ่งในข้อเท็จจริง ตอนเข้าจับกุม พบซากอยู่ตรงแคมป์ เเต่ทำไมศาลยกฟ้อง ขณะนี้ทางอัยการยังไม่ได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มมา จึงต้องรอความกระจ่างอีกครั้ง ยืนยันว่ากรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะยื่นอุทธรณ์ในข้อหาที่ศาลยกฟ้องไปทั้งหมด

ส่วน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่า หลังจากนี้อัยการจะขอไปคัดคำพิพากษาฉบับเต็ม เพื่อนำคำพิพากษามาวิเคราะห์ และพิจารณายื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ซึ่งทางคณะทำงานอัยการจะต้องทำความเห็นไปยังอัยการศาลสูง เพื่อออกคำสั่งว่าควรอุทธรณ์หรือไม่ อย่างไร แต่ขอยืนยันว่าระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหลักประกันความเป็นธรรมให้พี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ไม่เพียงคดีเสือดำเท่นั้น แต่เป็นแบบนี้ทุกคดี

คดีนี้ยังมีประเด็นคาใจหลายประเด็นจริงๆ เพราะคำพิพากษาฉบับเต็มยังไม่ออกมา ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนบางคนถึงกับตั้งข้อสังเกตแบบตลกร้ายว่า ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ล่าสัตว์ป่าที่นายเปรมชัยโดนลงโทษจำคุกนั้น จริงๆ แล้วเป็นการล่าเสือดำ หรือล่าไก่ฟ้ากันแน่ แต่ประเด็นนี้ อัยการเจ้าของสำนวน คุณพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ชี้แจงผ่าน "ล่าความจริง" แล้วว่า แม้คุณเปรมชัยจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเหนี่ยวไกฆ่าเสือดำ และจำเลยคนอื่นซึ่งเป็นลูกน้องของคุณเปรมชัยรับสารภาพว่าเป็นคนยิงเสือดำ แต่เมื่อคุณเปรมชัยอยู่ร่วมในที่เกิดเหตุ ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าเสือดำ ศาลจึงลงโทษจำคุกฐานสนับสนุนให้ล่าสัตว์ป่า ซึ่งคำชี้แจงนี้ค่อนข้างชัดว่า เป็นข้อหาสนับสนุนให้ล่าเสือดำ แต่ตอนนี้สังคมเริ่มคาใจกันมาก ก็ต้องรอดูคำพิพากษาฉบับเต็มกันต่อไป

logoline