จากตัวเลขในอดีต ทำให้หลายฝ่ายไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนประเทศน้อยขนาดนี้ เพราะหากคิดเฉพาะเขตที่้ชนะ 128 เขตตามโพลล์ คะแนนประเทศ 5.8 ล้าน จะเท่ากับคะแนนเขตเฉลี่ยแค่ 45,000 คะแนน ยังไม่รวมเขตที่แพ้อีก
แต่ฝ่ายที่สนับสนุนผลสำรวจของ "รังสิตโพล" ก็บอกว่า คะแนนที่ออกมามีความเป็นไปได้ เพราะพรรคเพื่อไทยเหลือส่ง ส.ส.แค่ 250 เขต จาก 350 เขต ประกอบกับเขตที่เคยชนะขาด อดีต ส.ส.ก็ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เช่น พลังประชารัฐ หรือภูมิใจไทย ทำให้คะแนนแต่ละเขตสูสี ไม่ขาดลอยเหมือนเมื่อก่อน ประกอบกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแบบ "บัตรเดียว" คะแนนพรรคในภาพรวมจะลดลง เพราะไม่มีบัตรให้เลือกพรรคอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน
สภาพเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ที่ตามโพลล์ระบุว่าคะแนนประเทศลดลงเหลือแค่ 6.6 ล้านคะแนน ทั้งๆ ที่เคยได้ถึง 10 ล้านคะแนน แต่จะว่าไป หลายคนก็ยังทำใจเชื่อยากอยู่ดี เพราะผลสำรวจระบุว่าคะแนนประเทศของพรรคพลังประชารัฐ จะชนะพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ
แต่ทิศทางการประเมินของ อ.สังศิต สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของฝ่ายความมั่นคง ที่เปิดตัวเลขล่าสุดออกมา ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองขนาดกลาง มีคะแนนเสียงลดลง และเสียงนั้นไปเพิ่มให้พรรคพลังประชารัฐ การวิเคราะห์แนวโน้มการเลือกตั้งนี้ จัดทำโดยหน่วยงานรัฐในฝ่ายความมั่นคง คาดว่าพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง ส.ส.เขต 109 ที่นั่ง ลดลงจากการประเมินครั้งก่อน เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลดเหลือ 81 ที่นั่ง จากครั้งก่อน 84-85 ที่นั่ง ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ มีแนวโน้มเพิ่้มขึ้น อยู่ที่ 105 ที่นั่ง จากการประเมินก่อนหน้านี้แค่ 80 กว่าที่นั่ง และขยับมาแตะร้อย จากผลประเมินล่าสุดต้องบอกว่า พลังประชารัฐจี้ติดพรรคเพื่อไทยแบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว