svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

(คลิปข่าว) โพลล์ลับ....ฟันธง "เพื่อไทย" ยังอันดับ 1 ปชป.ขยับตีตื้น

12 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"โพลล์ลับ" ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยพรรคหนึ่ง ที่ทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ หลังพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ และพรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่เอาลุงตู่ ปรากฏว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ตามโพลล์ลับของพรรคนี้ขยับสูงขึ้น โดย ส.ส.ระบบแบ่งเขต 350 เขต เพื่อไทยอันดับ 1 คาดว่าจะได้ ส.ส.125-160 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคประชาธิปัตย์ 85 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 70 ที่นั่ง

ข้อมูลที่เป็นเหตุผลยืนยันในเรื่องนี้ก็คือ โพลล์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ "ม.อ.โพลล์" มหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคใต้ ที่เพิ่งเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ออกมาล่าสุดปรากฏว่า ในกลุ่มประชาชนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกพรรคไหน มีแนวโน้มเลือกพรรคอนาคตใหม่มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 8.10 รองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 7.30 และพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 5.80 ขณะที่พรรคพลังประชารัฐถูกทิ้งห่าง

ส่วนบุคคลที่คนใต้อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดในกลุ่มที่ตัดสินใจแล้ว ก็คือ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 16.10 รองลงมาถึงจะเป็น คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คิดเป็นร้อยละ 12 และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 10.30คะแนนนิยมที่สะท้อนออกมาแบบนี้เองที่เป็นเหตุผลหนึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้อง "ประกาศจุดยืน" ครั้งสำคัญ ซึ่งโดยปกติพรรคการเมืองไทย ไม่ค่อยทำกันแบบนี้

แต่ยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ลึกล้ำกว่านั้น เพราะหากไล่ดูคะแนนจากผลโพลล์ทุกโพลล์ จะเห็นได้ว่า ประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.เขตราวๆ 80-90 ที่นั่ง เมื่อรวมกับปาร์ตี้ลิสต์ จะได้ราวๆ 100-120 ที่นั่ง จำนวนเสียงขนาดนี้ ถือว่าเป็น "ตัวแปรสำคัญที่สุด" ในการจัดตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพมั่นคง

ลองดูโพลล์ลับที่เพิ่งนำมาเปิดเผยล่าสุด สมมติว่าพรรคเพื่อไทยได้ 150 ที่นั่ง (อาจได้แค่นี้ เพราะปาร์ตี้ลิสต์มีแนวโน้มไม่ได้เลย โพลล์นี้มีความน่าเชื่อถือ เพราะจัดทำโดยพรรคฝั่งประชาธิปไตยเอง) หากจะตั้่งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ ต้องหาเสียง ส.ส.เพิ่มอีกราวๆ 150 เสียง เพื่อรวมกันเป็น 300 เสียง แต่ลองไล่ดูคะแนนพรรคอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ จะพบว่ารวมกันทุกพรรคแล้วก็ยังไม่ถึง 150 เสียง นี่ยังไม่นับการโหวตนายกฯในรอบแรกที่ต้องใช้เสียงถึง 376 เสียง

ในทางกลับกันไปดูอีกด้านหนึ่ง ถ้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคาดว่าจะได้ ส.ส.2 ระบบรวมกันราวๆ 100 ที่นั่ง หากต้องการตั้งรัฐบาล ต้องหาอีกราวๆ 200 เสียง หรืออย่างน้อย 150 เสียง เมื่อพลังประชารัฐจับมือกับเพื่อไทยและพรรคเครือข่ายไม่ได้ ก็จะเหลือประชาธิปัตย์พรรคเดียวเท่านั้นที่จะจับมือกันได้ (ไม่นับภูมิใจไทย ชาติพัฒนา ชาติไทยพัฒนา ที่พร้อมร่วมทุกขั้วอยู่แล้ว)

นี่คือความสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะกลายเป็น "ตัวแปรที่แท้จริง" โดยยุทธศาสตร์ของพรรค คือพรรคที่ได้คะแนนลำดับ 2 แต่หากใครจะตั้งรัฐบาล ขาดประชาธิปัตย์ไม่ได้ ฉะนั้นประชาธิปัตย์นี่แหละที่จะมีอำนาจต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะในฝั่งพลังประชารัฐ เพราะไม่มีทางที่ประชาธิปัตย์จะไปจับมือกับเพื่อไทยได้อยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรประชาธิปัตย์ก็ต้องจับมือกับพลังประชารัฐ กับพรรคเล็กอื่นทุกพรรคเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทย นั่นจึงเป็นโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ต่อรองให้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แทน "บิ๊กตู่" ถ้าไม่ยอม การเมืองก็จะติดล็อค ไม่มีฝ่ายใดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้เลยทั้งสองฝ่าย

logoline