(คลิปข่าว) ชายแดนใต้ป่วนต่อหลังบึ้มสตูล-พัทลุง

ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้าวันนี้ มีป้ายผ้าเขียนข้อความเกี่ยวกับ "ปาตานี 110" และการพ่นสีบนถนนด้วยข้อความคล้ายๆ กัน กระจายอยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

นี่คือตัวอย่างป้ายผ้าที่ติดหลายจุดในพื้นที่ เรานำมาให้ดูกันชัดๆ เขียนข้อความเป็นภาษามลายู แปลเป็นไทยได้ว่า "110 ปีการจำนองชาติพันธุ์ปาตานี" ส่วนการพ่นสีบนถนนด้วยข้อความสั้นๆ "ปาตานี 110" ก็สื่อความหมายเดียวกัน

ป่วนหนักรับกระแส "PATANI 110"

การพ่นสีข้อความนี้ มีมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ต่อเนื่องถึงต้นเดือนมีนาคม เป็นการสร้างกระแสในวาระครบ 110 ปี สนธิสัญญาแองโกล-สยาม ที่ลงนามกันระหว่างอังกฤษกับไทย (เมื่อครั้งที่ยังใช้ชื่อประเทศว่าสยาม) เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2452 หรือ ค.ศ.1909 สนธิสัญญาฉบับนี้มีสาระสำคัญแบ่งแยกดินแดนมลายูออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่กับสยาม ซึ่งรวมถึงปัตตานีด้วย อีกส่วนหนึ่งอยู่กับอังกฤษ ไดแก่ ไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู ปะลิส และเคดาห์ สนธิสัญญาฉบับนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ "ปัตตานี" เปลี่ยนสถานะจากรัฐอิสระ และประเทศราชของสยาม กลายเป็นส่วนหนึ่งของสยามอย่างสมบูรณ์ กระทั่งมีสถานะเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบัน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแจ้งเตือนของฝ่ายความมั่นคงว่าจะมีการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ ในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 110 ปีสนธิสัญญาแองโกล-สยาม แต่ปรากฏว่าเมื่อวานแทบไม่มีเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเพียงการพบวัตถุต้องสงสัยที่หน้าโรงเรียนรือเสาะวิทยา อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไปมีเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดสตูลและพัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แทน

นอกจากนั้นช่วงเช้าวันนี้ยังมีเหตุลอบวางระเบิดทหารพรานชุดลาดตระเวนเดินเท้า ที่ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ทำให้ สิบโท มาฮัมหมัด ยูโซ๊ะ อายุ 37 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4808 ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และยังพบวัตถุต้องสงสัยที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส รวมถึงกระสอบปุ๋ยซุกใต้ม้านั่งหินอ่อนในอำเภอเทพา จัหวัดสงขลา ด้วย แต่เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดปลอม

ช่วงสายวันเดียวกัน คนร้ายใช้มีดจี้ชิงรถจักรยานยนต์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ขณะขับขี่อยู่บนถนนในอำแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ป้ายทะเบียนปัตตานี ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามไล่ล่า เนื่องจากเกรงว่าจะนำไปประกอบระเบิดและนำไปก่อเหตุในย่านชุมชน

ส่วนเหตุระเบิดกว่าสิบจุดที่จังหวัดสตูลและพัทลุงนั้น เบื้องต้นฝ่ายความมั่นคงสรุปฟันธงแล้วว่าเกี่ยวโยงกับกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขยายพื้นที่ก่อเหตุออกมา โดยอาศัยวาระ 110 ปีสนธิสัญญาแองโกล-สยาม เป็นเงื่อนไขในการปฏิบัติการ

สำหรับเหตุระเบิดนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีมาตลอด 15 ปีที่มีสถานการณ์ไฟใต้ / โดยส่วนใหญ่เป็นระเบิดในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของภาคใต้ตอนล่าง

ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่เคยมีการลอบวางระเบิด ก็เช่น ย่านรามคำแหง ปากซอยรามคำแหง 43/1 กรุงเทพฯ ก็เคยเกิดระเบิดเมื่อปี 56 คดีนี้จับกุมมือระเบิดได้หลายคน และศาลตัดสินจำคุกคนละหลายสิบปี คดีถึงที่สุดไปแล้ว นอกจากนั้นในปี 58 ยังเคยเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปี 59 มีระเบิดเกือบ 20 จุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงไปถึงสุราษฎร์ธานี , นครศรีธรรมราช , ภูเก็ต และล่าสุดเมื่อปลายปี 61 ที่ผ่านมา ก็เพิ่งเกิดระเบิดที่ชายหาดสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา รวมทั้งอำเภอบางกล่ำ กับอำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลาด้วย โดยอำเภอควนเนียงก็เป็นพื้นที่รอยต่อกับอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ที่เกิดระเบิดเมื่อวานนี้ด้วย

หลังเกิดระเบิดนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมักให้ข่าวแบบคลุมๆ ไม่ฟันธงว่า ชนวนเหตุมาจากความขัดแย้งทางเมือง หรือภัยแทรกซ้อนที่ผสมโรงกับไฟใต้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ยอมรับตรงๆ ว่ากลุ่มป่วนใต้ขยายพื้นที่ก่อเหตุ ซึ่งฝ่ายทหารมองว่า การวางระเบิดนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงใกล้เลือกตั้ง และมีแนวโน้มอาจเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รวมทั้งต้องเปลี่ยนคณะพูดคุยเจรจาคณะใหม่กับผู้เห็นต่างจากรัฐคณะใหม่ จึงมีความเป็นไปได้ว่าเป็นความจงใจก่อเหตุเพื่อเพิ่มเงื่อนไขต่อรองในการพูดคุยเจรจา หลังจากนี้คงต้องรอดู