(คลิปข่าว) เบื้องหลังฟังชัดๆ "อภิสิทธิ์" ลอยแพ "บิ๊กตู่"

จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องหลังการประกาศจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ว่าจะไม่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจนั้น "ล่าความจริง"ได้ข้อมูลมาว่า ยุทธศาสตร์นี้มาจากการหารือร่วมกันระหว่างนายอภิสิทธิ์กับแกนนำพรรคบางส่วน เพราะประเมินแล้วว่าพื้นที่ภาคใต้ที่เป็น "ฐานเสียงสำคัญ" ของพรรค นอกจากพรรคจะได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตน้อยลง เพราะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น ทั้งพรรคประชาชาติ และพรรครวมพลังประชาชาติไทยแล้ว พรรคยังอาจได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์น้อยลงด้วย เนื่องจากคนใต้ไม่พอใจรัฐบาล คสช. จากปัญหาราคายางพาราและราคาปาล์มตกต่ำมานาน นอกจากนั้นยังมีปัญหาประมงที่รัฐบาลใช้มาตรการเข้มเพื่อปลดธงแดงของสหภาพยุโรป หรือ "ไอยูยู ฟิชชิ่ง" ทำให้ประมงชายฝั่งและผู้ประกอบการประมงเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะใน 28 จังหวัดชายทะเล

ฉะนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ยังแทงกั๊ก มีแนวโน้มสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย ก็จะเสียคะแนนนิยมในส่วนนี้ไปให้พรรคคู่แข่งในภาคใต้ โดยเฉพาะพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของอดีต ส.ส.กลุ่มวาดะห์ และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ชอบรัฐบาลทหารเช่นกัน รวมถึงพรรคอนาคตใหม่ที่แสดงจุดยืนชัดเจนเรื่องไม่เอาการสืบทอดอำนาจ ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์ปล่อยให้สถานการณ์เดินหน้าไปแบบนี้ ก็จะทำให้ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ลดลง นอกเหนือจากจำนวน ส.ส.เขตที่จะลดลงราวๆ 10 ที่นั่งในภาคใต้

ในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ภาคใต้มีที่นั่ง ส.ส.ราว 50-52 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์เคยกวาด ส.ส.ได้มากถึง 48-49 ที่นั่ง แต่ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โพลล์จากหลายสำนักระบุตรงกันว่า พรรคจะเหลือที่นั่งในภาคใต้เพียง 38 ที่นั่งเท่านั้น

แต่การประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ก็มีโอกาสที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียคะแนนนิยมจาก "แฟนพันธุ์แท้" บางกลุ่มไปเหมือนกัน โดยเฉพาะกลุ่มไม่เอาอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร แฟนคลับในส่วนนี้อาจหันไปเทเสียงให้พรรคพลังประชารัฐแทน ขณะที่คอการเมืองบางส่วนมองว่าจุดยืนทางการเมืองแบบนี้ กลายเป็น "ทางแคบ" สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่เหลือพันธมิตรทางการเมือง จนมีความเสี่ยงสูงที่จะตกขบวน ไม่ได้ร่วมรัฐบาล อีกทั้งเป็นเรื่องยากมากที่พรรคประชาธิปัตย์จะพลิกเกมกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในสถานการณ์เช่นนี้