(คลิปข่าว) คาดแก๊งอุ้มฆ่า 2 ตำรวจ-เผารถ หนีข้ามแดนแล้ว

ก่อนอื่นเรามาไล่เรียงเหตุการณ์กันก่อน ช่วงค่ำ เวลาประมาณ 19.30 น.เมื่อวานนี้ มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 8 คน บางคนแต่งกายด้วยชุดสีดำคล้ายทหารพราน บางคนสวมเสื้อลายพรางคล้ายของทหาร มีผ้าคาดปิดบังใบหน้า และมีอาวุธปืนยาวครบมือ บุกเข้าไปที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 2 ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งเปิดเป็นร้านน้ำชา และได้จับตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไป 2 นาย ขณะกำลังนั่งคุยอยู่กับคนรู้จักในร้าน โดยนำตัวขึ้นรถกระบะแบบ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กล 3584 สงขลา ซึ่งคาดว่าเป็นรถของ 1 ใน 2 ตำรวจที่ถูกจับตัว จากนั้นคนร้ายได้ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ หนีหายไป

ตำรวจ 2 นายที่ถูกจับตัว คือ สิบตำรวจโทนเรศว์ เอียดทอง สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจที่ 31 (นปพ.ฉก.31) ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กับ สิบตำรวจโท รุสไวดี สาแม เป็นตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง โดยคนร้ายชิงอาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนสั้นอีก 2 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของตำรวจทั้ง 2 นายไปด้วย

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกติดตามค้นหา กระทั่งเมื่อเวลาประมาณตี 4 ครึ่ง พบรถกระบะมิตซูบิชิถูกเผาวอดทั้งคัน ถูกจอดทิ้งอยู่บนถนน ในท้องที่หมู่ 3 ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าน่าจะเป็นคันเดียวกับที่คนร้ายชิงไปขณะจับตัว 2 ตำรวจ

ต่อมาในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่พบศพตำรวจทั้ง 2 นายถูกทิ้งในคูน้ำ ในพื้นที่บ้านบูเก๊ะ หมู่ 2 ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน

สำหรับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีฟ้า ที่ถูกคนร้ายปล้นไป และจุดไฟเผาจนวอดนั้น จากการตรวจสอบในสารบบงานทะเบียนรถยนต์ พบว่าผู้ครอบครองเป็นพลเรือน มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ไม่ใช่ชื่อของตำรวจ 2 นายที่ถูกสังหาร

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังรุดไปตรวจที่เกิดเหตุอุ้ม 2 ตำรวจ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นร้านขายน้ำชา โดยเป็นร้านที่ตำรวจ 2 นาย นัดเพื่อนๆ มานั่งพูดคุยกันเป็นประจำ สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายทุกคนมีอาวุธครบมือ มี 6 คนเข้ามาในร้าน อีก 2 คนคุมเชิงอยู่ข้างนอก เมื่อบุกเข้ามาได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้คในร้านอยู่ในความสงบ จากนั้นก็เจาะจงจับตัวตำรวจ2นายมัดมือไพล่หลัง คุมตัวไปขึ้นรถกระบะ จากนั้นก็ขับรถออกจากหน้าร้านไป

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของตำรวจทั้งสองนายมาตลอด และรู้ว่ามานั่งดื่มน้ำชาที่ร้านนี้เป็นประจำ จึงวางแผนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมีคนในละแวกที่เกิดเหตุรู้เห็นเป็นใจ คอยชี้เป้าให้คนร้าย จึงได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุกร้ายไปสอบปากคำ

ส่วนจุดที่พบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ถูกเผาในตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบแล้วเช่นกัน คาดว่าคนร้ายน่าจะดูดน้ำมันเชื้อเพลิงจากถัง แล้วนำมาราดในห้องโดยสาร ก่อนจุดไฟเผา สาเหตุที่ต้องเผารถ สันนิษฐานว่าคนร้ายไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอของคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พลตำรวจตรี ดุษฎี ชูสังกิจ บอกว่า คนร้ายได้ขับรถมาจากอำเภอเจาะไอร้อง โดยใช้เส้นทางหลบกล้องวงจรปิด จากนั้นก็นำรถมาเผาทำลาย จากนั้นคาดว่าได้หลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และแม้คนร้ายจะเผารถทำลายหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ยังมีของกลางเป็นเชือกที่ใช้มัดตำรวจทั้ง2นาย และปลอกกระสุนปืนที่ใช้ยิงตำรวจ สามารถนำมาตรวจพิสูจน์เพื่อหาเบาะแสโยงไปยังกลุ่มคนร้ายได้

สำหรับศพของตำรวจทั้ง 2นาย ครอบครัวได้ไปรับที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว โดยศพของ สิบตำรวจโท นเรศว์ เอียดทอง ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดคูขุด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ส่วนศพของ สิบตำรวจโท รุสไวดี สาแม ญาตินำไปฝังที่กุโบร์บ้านบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งเป็นบ้านเกิด

สงสัยโยงโจรใต้ ตอบโต้ จนท.กวาดล้างหนัก

จากการรวบรวมข้อมูลของ "ล่าความจริง" พบว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงให้น้ำหนักชนวนเหตุของเหตุการณ์อุ้มฆ่า 2 ตำรวจ ว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้าของผิดกฎหมาย

โดยเหตุการณ์ที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้อง จนเกิดปฏิบัติการตอบโต้ ก็คือ เหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธบนเทือกเขาไอร์ลาฆอ ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคงได้ 2 ราย เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นในช่วง 1 สัปดาห์มานี้ ตำรวจเจาะไอร้องจับกุมแก๊งค้าของผิดกฎหมาย และยึดอาวุธสงครามได้หลายครั้ง เริ่มจากวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ตำรวจนำกำลังเข้าค้นบ้านหลังหนึ่งในตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งเป็นแหล่งพักและจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ยึดของกลางได้หลายรายการ ทั้งใบกระท่อม น้ำกระท่อม และอาวุธปืนทั้งเอ็ม 16 และปืนพก พร้อมจับกุมคนในบ้านได้ 1 ราย

ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตำรวจเจาะไอร้องบุกจับ นายไพศอล (อ่านว่า ไพ-ซอน) มะหลง พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทยาแก้ไอและใบกระท่อม รวมทั้งอาวุธปืนยาว และปืนพกอีกอย่างละ 1 กระบอก ในพื้นที่ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง

นี่คือ 3 เหตุการณ์หลักๆ ที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นชนวนเหตุที่ทำให้กลุ่มคนร้ายตอบโต้ โดยเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่และตามตะเข็บชายแดน โดยคนร้ายกลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย